ประเสริฐเชื่อ ’ทักษิณ’ ลั่นเลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อไทยกวาด 200 เสียง หวังปลุกใจผู้สมัคร-รับ ม.112 เป็นหนึ่งเงื่อนไขร่วมรัฐบาลก้าวไกลไม่ได้-ยัน ‘อดีตนายกฯ-ธนาธร’ ไม่เกี่ยวตั้งรัฐบาลปี’66
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขึ้นปราศรัยหาเสียง นายก อบจ.อุดรธานี ว่าการเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะได้ สส. 200 เสียง ว่า เข้าใจเป็นการให้กำลังใจทั้งผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี และผู้สมัคร สส.ในอนาคต เพราะหลังจากที่พรรคเพื่อไทยมีนโยบายออกไปหลายอย่าง ท่านเชื่อว่าจะส่งผลให้ได้รับความนิยมจากพี่น้องประชาชน จนทำให้ได้รับการเลือกตั้ง สส.ถึง 200
เมื่อถามว่า 200 เสียงที่ว่าจะมาจากพรรคประชาชนหรือพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ นายประเสริฐกล่าวว่า ถ้าตอบชัด ๆ ก็ต้องมาจากพี่น้องประชาชน เพราะเป็นคนเลือก
เมื่อถามย้อนถึงการจัดตั้งรัฐบาลในปี 2566 ที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถจับมือกับพรรคก้าวไกลได้ เนื่องจากมีเงื่อนไขเรื่องมาตรา 112 ตามที่นายทักษิณมีวิวาทะกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าใช่หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ตนไม่เคยทราบว่าทั้งคู่มีวิวาทะกัน และสองท่านนี้ไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมระบุว่าการจัดตั้งรัฐบาลห้วงเวลานั้น ตนในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าพรรค ก็ได้ไปเจรจากับหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาล รวมถึงพรรคก้าวไกลในขณะนั้นซึ่งไม่ใช่นายธนาธร แต่ยอมรับว่ามีเรื่องมาตรา 112 อยู่ด้วย
รวมถึงหลายเรื่อง เช่น เรื่องการทำงานที่มีบางเรื่องคล้ายกัน และบางเรื่องก็มีความแตกต่างกัน ซึ่งหากย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น พรรคเพื่อไทยก็เปิดโอกาสให้พรรคที่ชนะการเลือกตั้งได้โหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน
แต่เมื่อไม่สามารถโหวตได้ และไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง ก็มีการนำเสนอให้พรรคลำดับที่สองคือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญ และถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ สมัยก่อนเราเคยชนะที่ 1 เราก็ตั้งรัฐบาลได้ ตนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง