เปิดเวที “ปราศรัยหาเสียง” แท็กติกประชาธิปไตย

ทักษิณ ชินวัตร
ทักษิณ ชินวัตร

ห้วงเวลานี้ มีการเลือกตั้ง อบจ.หลายจังหวัด

ที่โด่งดังกว่าเพื่อน คือ สนามเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

สนามนี้ ลงแข่งขัน 3 คน โดยมีพรรคประชาชน กับพรรคเพื่อไทย เป็นคู่ต่อสู้สำคัญ

สำหรับพรรคประชาชน มี “คณิสร ขุริรัง” จากพรรคประชาชน เจอกับ “ศราวุธ เพชรพนมพร”

อุดรฯ เป็นจังหวัดใหญ่ของภาคอีสาน มี สส.ได้ 10 คน เป็นของเพื่อไทย 7 คน และมี “พรรคประชาชน” อยู่ 1 คน

การต่อสู้ที่อุดรธานีเปรี้ยงปร้างขึ้นมา เมื่ออดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่เก็บตัวเงียบมาพักใหญ่ ขึ้นเวทีปราศรัย 3 เวทีด้วยกัน

ADVERTISMENT

คอการเมืองฟังแล้วก็บอกว่า แซบหลาย เพราะอดีตนายกฯทักษิณพูดเรื่องการเมืองระดับชาติ ร้อยเรียงปัญหาต่าง ๆ เข้ามา คำพูดคำปราศรัยมีน้ำหนัก

ด้วยมุมมองของคนระดับอดีตนายกฯ ที่มีคะแนนนิยมมากที่สุดคนหนึ่งของการเมืองไทย

ADVERTISMENT

บางประเด็นไปแตะพรรคคู่แข่ง ทางคู่แข่งก็ฟาดกลับแบบไม่เกรงใจ โต้กันเดือด

มีทั้งขึ้นเวทีตอบโต้ ให้สัมภาษณ์โต้ ไปจนถึงแต่งกลอน เขียนบทกวีโต้กัน

การเมืองประชาธิปไตยก็เป็นแบบนี้ พอปี่กลองเลือกตั้งดังขึ้น ขึ้นเวทีแล้ว ไม่มีใครถอยให้ใคร

มีแต่เข้าเกียร์เดินหน้าชนสถานเดียว

การปราศรัยการเมืองตอบโต้กันแบบนี้ เป็นวัฒนธรรมการเมืองของไทยแบบหนึ่ง

บางพรรคเก่งจริงจังในเรื่องการปราศรัย มี “ขุนพล” ฝีปากคมมากมาย เลือกตั้งแต่ละครั้ง ขึ้นเวทีแต่ละครั้ง มีแฟนคลับตามฟังล้นหลาม

แต่การเมืองต้องการมากกว่านักปราศรัย ถ้านักการเมืองพูดเก่ง แต่ปฏิบัติไม่ได้ บริหารไม่เป็น บทบาทก็จะจำกัดอยู่แค่เป็นนักอภิปราย นักปราศรัย

ระยะหลัง ๆ จากปี 2535 เป็นต้นมา การเมืองเปิด หัวหน้าพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้ง ได้เป็นนายกฯ เป็นรัฐมนตรี มีโอกาสพิสูจน์ฝีมือกันหลายคน

พิสูจน์แล้ว ปรากฏว่า ตกม้าบาดเจ็บกันหลายราย แต่หลายคนพูดเก่งด้วย ทำงานเก่งด้วย แจ้งเกิดกันไป

ระยะหลัง ๆ การเมืองเศรษฐกิจของประเทศ ซับซ้อนมากขึ้น และต้องการมือบริหารที่มีความสามารถมากขึ้น แต่ละพรรคมักจะจัดเอานักพูดนักอภิปรายให้มีบทบาททางสภา

รัฐประหารเมื่อปี 2557 ทำให้การเมืองปรับตัวอีกครั้ง จนเกิดเลือกตั้ง 2562 และ 2566 คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาท

การพูดยาว ๆ ยืดเยื้อ อภิปรายยาว ๆ วาทะโวหารท่วมทุ่ง หมดความสำคัญลงไป หันมาเน้นเนื้อหาข้อมูล เน้นประเด็นที่ต้องการสื่อสาร

พูดดี ๆ เมื่อไหร่ จะมีคลิป มีวิดีโอ นำไปเผยแพร่ต่อในโซเชียลมีเดีย พูดไม่ดีก็ทำนองเดียวกัน “ไวรัล” ไปทั่ว อับอายนานหน่อย จนกว่าคนฟังจะเบื่อไปเอง

การปราศรัยก็คล้าย ๆ เลือกตั้ง คือสุดท้ายประชาชนจะตัดสิน

แพ้ชนะกันแบบไหนยังไง ต้องรอฟัง