ยธ.ขยายเวลาพิสูจน์ “ตั๊น กฤดากร” เป็นคนจน อีก 15 วัน หลังมาขอเงินกองทุนยุติธรรมสู้คดี

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่กระทรวงยุติธรรม นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือเงินประกันตัวจากกองทุนยุติธรรม ว่า น.ส.จิตภัสร์ ได้ยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขั้นตอนหลังจากนี้ ทางกระทรวงจะขอความร่วมมือจากผู้ขอรับความช่วยเหลือ ขอให้แสดงหลักฐานเกี่ยวกับฐานะทางเศรษฐกิจ ตามที่สำนักงานกองทุนยุติธรรม ร้องขอตามเวลาที่กำหนด คือ ภายใน 15 วันนับจากที่ยื่นคำร้อง หรือต้องยื่นเอกสารหลักฐานมาให้สำนักงานกองทุนยุติธรรม ภายในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าส่งเอกสารมาให้พิจารณา

นายธวัชชัยยังระบุว่า โดยเอกสารหลักฐานหลักๆ ที่ต้องนำมาแสดงคือ รายการบัญชีทรัพย์สินทั้งหมดที่เป็นชื่อของผู้ร้อง หากเข้าข่ายเป็นผู้อยู่ในบัญชีเครดิตบูโร อยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาล และผู้ต้องหาหรือจําเลยไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี ก็สามารถได้รับเงินช่วยเหลือไปได้

“หลักการของกองทุนทุกคนสามารถมาขอได้ แต่วัตถุประสงค์หลักคือต้องการช่วยเหลือคนจนเป็นอันดับแรก โดยเรื่องนี้คนทั่วไปทราบดี แต่ตัวเขาอาจจะไม่ทราบก็ได้ การพิจารณาจากชื่อเสียงในสังคมของเขาอาจจะไม่สามารถพิสูจน์ทรัพย์ได้เสมอไป เขาอาจเคยเป็นคนมีเงิน หรืออาจจะมีหลักทรัพย์ไม่พอจริงก็ได้ ต้องให้ความยุติธรรมกับทุกรายที่ร้องขอมา โดยต้องรอตรวจสอบจากหลักฐานก่อน” รองปลัดยุติธรรมกล่าว

นายธวัชชัยกล่าวอีกว่า ส่วนจะได้หรือไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือไม่ อยู่ที่ข้อเท็จจริง ยืนยันไม่เลือกปฏิบัติยินดีให้ความช่วยเหลือทุกกลุ่มทุกฝ่าย หากเข้าข่ายยินดีช่วยเหลือทุกคน ทั้งนี้ จากสถิติที่ผ่านมาผู้ที่มาขอความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม กรณีเป็นบุคคลที่อยู่ในฐานะพอที่สามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ด้วยตนเอง แต่ยังเข้ามาขอรับความช่วยเหลือ มักจะไม่ส่งเอกสารแสดงสถานะทางการเงินต่อเจ้าหน้าที่ตามเวลาที่กำหนด หรือไม่ยอมส่งเอกสารตามที่ขอ ซึ่งกองทุนยุติธรรมก็จะยุติเรื่องภายใน 15 วัน แต่ทั้งนี้จะไม่ตัดสิทธิในการขอซ้ำอีกครั้ง

ล่าสุด ได้รับรายงานจากสำนักงานกองทุนยุติธรรมว่า เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ได้มีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการไปยัง น.ส.จิตภัสร์ ถึงเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่ต้องใช้ รวมทั้งแจ้งขยายเวลาการยื่นหลักฐานเอกสารทางการเงิน จากเดิม 11 มิถุนายนนี้ ขยายเพิ่มไปอีก 15 วัน (นับจากวันที่ 7 มิ.ย.) ไปเป็นวันที่ 21 มิถุนายนนี้

 

ที่มา : มติชนออนไลน์