
“นิด้าโพล” สำรวจความเห็นประชาชน เรื่อง “ยุบพรรค ตัดสิทธิทางการเมือง” เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้คำตอบที่น่าสนใจหลายเรื่อง
ถามถึงการมีสิทธิของประชาชนในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง
หากพบบุคคลใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย ร้อยละ 81.37 ตอบว่า ประชาชนควรมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ร้อยละ 16.42 เห็นไปอีกทางว่า ประชาชนไม่ควรมีสิทธิในการยื่นโดยตรง
ร้อยละ 2.21 ตอบว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
มาถึงคำถามว่า เห็นอย่างไร ต่อการยุบพรรคการเมืองที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ร้อยละ 61.30 ตอบว่า ควรมีการลงโทษด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การยุบพรรค ร้อยละ 36.10 หนุนให้ยุบพรรค ร้อยละ 2.60 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ถามถึงการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย ร้อยละ 39.54 ระบุว่า ควรตัดสิทธิทางการเมือง เฉพาะกับผู้กระทำการเท่านั้น
รองลงมา ร้อยละ 31.68 ตอบว่า ควรลงโทษด้วยวิธีอื่นเฉพาะกับผู้กระทำการเท่านั้น ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ควรลงโทษตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด
ร้อยละ 6.26 ระบุว่า ควรลงโทษด้วยวิธีอื่นกับกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด และร้อยละ 3.21 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
จากคำตอบดังกล่าว จะเห็นว่า โดยรวมประชาชนไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรค และแนะนำว่า ควรลงโทษด้วยวิธีอื่นได้แล้ว
และไม่เห็นด้วยกับการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคแบบเหมารวม
ถือเป็นความเห็น จากความคิดที่มีความยุติธรรม และยังเข้าใจการเมืองด้วยว่า ประกอบขึ้นจากคนจำนวนมาก
พรรคการเมืองอาจมีการกระทำหลายอย่าง แต่ถ้าเป็นความผิดแล้วจะเอาโทษ ก็ต้องจำแนกแยกแยะ หาคนกระทำผิดมาลงโทษ ไม่ใช่เอาผิดไปทั้งหมด
ในระยะเวลา 20 กว่าปีจากปี 2541 ที่มีการใช้กฎหมายพรรคการเมืองไปยุบพรรค มีพรรคถูกยุบไปแล้ว มากกว่า 100 พรรค
ในจำนวนนี้มีพรรคใหญ่ ๆ หลายพรรคด้วยกัน ส่วนการตัดสิทธิทางการเมือง มีอดีตนายกฯถูกตัดสิทธิไปหลายคน ผู้นำพรรคที่มีแววจะเป็นกำลังสำคัญของการเมือง ก็โดนกันไปหลายคน
เมื่อประชาชนคิดอย่างนี้แล้ว ก็น่าจะถึงเวลามาปรับปรุงกฎหมาย ให้เป็นไปตามความเห็นของประชาชน
ถึงเวลา ให้ “นักกฎหมาย” เขียนกฎหมาย ตามความคิดเห็นของประชาชน