‘คนเมืองคอน’ ปากท้องดี – จีดีพีโต : วาริน ชิณวงศ์

แค่เริ่มต้นฤดูก็ดุเดือดแล้ว สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น ชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ในหลายพื้นที่ อาทิ ปทุมธานี ขอนแก่น อุดรธานี แม้ยังไม่ถึงคิวเลือก อบจ.ใหญ่ ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ผู้สมัครหลายจังหวัดก็มีทั้งแบบเปิดหน้าและไม่เปิดหน้าหาเสียง ว่าลงในนามค่ายมุ้งการเมืองสีใด

แต่หนึ่งพื้นที่ที่ถูกพูดถึง คือสนามนายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้ำ-วาริน ชิณวงศ์ สามารถล้มแชมป์เก่า นายก ต้อย-กนกพร เดชเดโช แม่ สส.แทน ชัยชนะ เดชเดโช เจ้าของพื้นที่ พ่วงดีกรีรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยคะแนนทิ้งห่างกว่า 3 หมื่น

“ประชาชาติธุรกิจ” พาไปพูดคุยกับว่าที่นายก อบจ.นครศรีฯ ที่แม้เป็นหน้าใหม่การเมือง แต่แวดวงนักธุรกิจโดยเฉพาะในพื้นที่รู้จักหญิงมาดเท่วัย 49 คนนี้เป็นอย่างดี เพราะเคยดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าเมืองคอน และกรรมการหอการค้าไทย หลายสมัย

ต่อไปนี้คือเส้นทางธุรกิจ การเมือง รวมถึงแนวคิดการบริหารเมืองคอนฯ จากเจ้าของวลี “เลือกน้ำไปทำแทน” ที่โซเชียลแห่แชร์

‘นักธุรกิจ’ สู่เก้าอี้ ‘นายก เมืองคอน’

วาริน ชิณวงศ์ เป็นคนเมืองคอนแต่กำเนิด เกิดที่อำเภอปากพนัง ไม่ได้เติบโตในครอบครัวนักการเมือง พ่อประกอบอาชีพนักเขียน แม่ค้าขายเพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว การศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงปริญญาตรีเรียนในจังหวัด จบสาขาวิทยาการจัดการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีฯ หลังเรียนจบประกอบอาชีพเกี่ยวกับธุรกิจคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ปี 2542

เส้นทางสังคม อดีตเคยดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช กรรมการหอการค้าไทย ล่าสุดเป็นคณะทำงาน พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ดูแลพื้นที่ภาคใต้ ก่อนตัดสินใจลาออกมาเข้าสู่สนามการเมืองท้องถิ่น

หน้าใหม่ ที่เข้าใจพื้นที่กว่า นักการเมืองรุ่นเก่า

เมื่อถูกยิงคำถามแรกรู้สึกอย่างไรกับวลีที่ถูกพูดถึง “เลือกน้ำไปทำแทน” ว่าที่นายก อบจ.เมืองคอน เปิดใจสาเหตุที่พูดตอนนั้น คิดว่าหากชาวนครศรีธรรมราช ต้องการอะไรก็ขอให้เลือกตนไปทำงานแทนคนในจังหวัด ไม่เกี่ยวกับการตอบโต้เสียดสีทางการเมืองเลย

ส่วนที่ถูกมองเป็นหน้าใหม่การเมืองแต่สามารถล้มแชมป์ เจ้าตัวยอมรับหากมองพื้นฐานทางการเมืองเป็นโนเนม ไม่มีชื่อในแวดวง และไม่เคยทำสิ่งที่นักการเมืองส่วนใหญ่ทำ เช่น ไปงานศพ ออกงานสังคมพบปะประชาชน แต่ถ้าพูดชื่อในแวดวงธุรกิจ มั่นใจ น้ำ-วาริน ไม่โนเนม

เจ้าตัวเชื่อว่า สิ่งที่ทำมาในอดีตนักการเมืองหลายคนไม่เคยทำ ทั้งการศึกษาภูมิศาสตร์เศรษฐกิจพื้นที่ ศึกษาความเดือดร้อนประชาชน ศึกษาจุดเด่น และหาโอกาสการเจริญเติบโตของบ้านเกิด เพื่อหวังให้นครศรีธรรมราชเป็นเมืองแห่งโอกาสของคนรุ่นใหม่ นี่จึงเป็นเหตุผลทำให้เข้าใจประชาชน เข้าใจการพัฒนาจังหวัดเป็นอย่างดี

“นี่ถือเป็นจุดแข็ง เพราะน้ำทำนโยบายสิ่งที่ชาวบ้านอยากให้ทำ ไม่ใช่ทำในสิ่งที่นักการเมืองเค้าอยากให้ทำกัน”

ไร้รวมพลังบ้านใหญ่รุม “ล้มช้างเมืองคอน”

ว่าที่นายก อบจ.นครศรีฯ อธิบายกรณีถูกมองชัยชนะครั้งนี้ปัจจัยแรงส่ง เพราะได้รับการสนับสนุนจากการเมืองบ้านใหญ่เมืองคอน อย่าง เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ หลายสมัย รวมถึง พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และ พิพัฒน์ แม่ทัพใหญ่แดนใต้ ภูมิใจไทย ว่าส่วนตัวเป็นชาวนครฯ ทำธุรกิจในพื้นที่มานาน ที่ผ่านมาไม่เคยมีศัตรู มีแต่มิตรสหาย เป็นธรรมดาเพื่อนฝูงเยอะจึงคอยสนับสนุน และเขาเห็นด้วยกับนโยบายที่มุ่งช่วยประชาชน โดยไม่สนเป็นพื้นที่กลุ่มการเมืองใด

ส่วนรัฐมนตรีพิพัฒน์ เจ้าตัวยอมรับเคยเป็นคณะทำงาน แต่ลาออกมาเพื่อลงสมัคร อบจ. ซึ่งการสนับสนุนของแกนนำภาคใต้ค่ายการเมืองสีน้ำเงิน ที่ผ่านมาเพียงแต่ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำที่ดีเท่านั้น ไม่ได้สนับสนุนอะไรมากกว่านี้

ส่วนที่ถูกมองว่าล้มช้างได้ วาริณทวนคำถามว่า “ล้มช้างหรือ ?” ก่อนอธิบายสาเหตุที่คิดว่าทำให้ชนะใจชาวนครศรีธรรมราช เพราะชาวบ้านซื้อนโยบาย อยากให้ตนมาเป็นผู้นำ ส่วนคำว่าล้มช้างหรือไม่ ไม่รู้สึกกับคำนี้ เพราะไม่คิดแข่งกับใคร คิดแต่การชนะครั้งนี้จะเป็นบันไดขั้นแรก เพื่อก้าวไปขั้นต่อไปที่จะทำงานเพื่อพิสูจน์สิ่งที่เคยพูดไว้ให้สำเร็จ

เจาะ 3 นโยบายซื้อใจคนคอน “มีวิชั่นใช้เงิน โปร่งใส่ มุ่งพัฒนา”

ว่าที่นายก อบจ.นครศรีฯ ทบทวนคิดว่าสิ่งที่ทำให้ได้รับชัยชนะมาจากเข้าใจชาวบ้าน เพราะตลอดชีวิตเกือบ 49 ปี เป็นผู้เลือกนักการเมืองมาตลอด ทำให้รู้ว่าคนเมืองคอนต้องการ 3 สิ่งหลัก ๆ 1.) การบริหารจัดการงบประมาณ ต้องมีวิสัยทัศน์ รู้ทิศทางนำเมืองเจริญไปทางใด ไม่ใช่มองแต่การใช้งบฯ อบจ. ทำแต่เรื่องเดิม ๆ เช่น คมนาคม สาธารณูปโภค

แต่หน้าที่นายก อบจ. ต้องมีวิสัยทัศน์เพื่อพัฒนาท้องถิ่น สามารถประสานเชื่อมโยงนักธุรกิจ นักลงทุน รัฐบาล หรือชาวโลก ทำให้ท้องถิ่นเจริญได้อย่างมั่นคง กลายเป็นเมืองแห่งโอกาสของคนทุกกลุ่มทุกวัย เพราะโลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้น นโยบายตนจากนี้จะรวบรวมคนเก่งในจังหวัดมาร่วมกันทำงานเพื่อทำให้บ้านเกิดเจริญเติบโต

“หากมองเรื่องเศรษฐกิจ ต้องเน้นปากท้องดี จีดีพีจังหวัดดี เพื่อสร้างความยั่งยืน ถ้าไม่ทำอะไรเยาวชนรุ่นใหม่ที่เป็นคนเก่งจะเดินออกไป แต่ถ้าทำให้เขาเห็นว่าบ้านเกิดเป็นเมืองแห่งโอกาส ก็จะไม่ไปไหน อยู่ช่วยพัฒนาให้เจริญ”

2.) ทำให้โปร่งใสตรวจสอบได้ ตั้งใจว่าเมื่อได้ทำงานนายก อบจ. จะเปิดโอกาสให้ชาวบ้านตรวจสอบการทำงาน รวมถึงงบประมาณ อบจ. เพราะส่วนตัวตั้งใจทำให้ประชาชนเห็นความโปร่งใสการใช้งบฯ

และ 3.) นโยบายเศรษฐกิจ มองว่านักการเมืองท้องถิ่นส่วนใหญ่ไม่นิยมทำเรื่องพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ แต่ตนย้ำตั้งแต่ช่วงหาเสียง จุดมุ่งหมายต้องการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ให้เป็นเมืองแห่งโอกาสทางเศรษฐกิจ

‘นครศรีฯ’ จะไม่ใช่แค่ทางผ่าน-ปชช.รายได้ต้องเพิ่ม 10%

การทำงานหลังจากนี้ ว่าที่นายก อบจ.นครศรีฯ มุ่งมั่นตั้งใจแก้ปัญหาพัฒนาจังหวัด 4 เรื่องหลัก ๆ โดยวาระเร่งด่วนจะแก้ปัญหาขยะ โดยระดมความเห็นผู้นำท้องถิ่น เทศบาล อบต. มาร่วมแก้ไข

รวมถึงพัฒนาสิ่งแวดล้อมจังหวัด ซึ่งมีเทือกเขาหลวงเป็นพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ จะพัฒนาพื้นที่ป่าให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อทำให้ทรัพยากรต้นน้ำ อากาศดีขึ้น

ส่วนเรื่องสำคัญที่ตั้งใจจะทำ การฟื้นฟูเศรษฐกิจจะพัฒนา 3 ด้านคือ สินค้าการเกษตร การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ในส่วนการเกษตรไม่น่าห่วง เพราะยางพารา ปาล์ม ผลไม้ในพื้นที่ ทุเรียน มังคุด ส้มโอ ได้รับการตอบรับดี แต่ต้องส่งเสริม พัฒนา สนับสนุนอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพมากขึ้น

ส่วนภาคท่องเที่ยว ตั้งใจทำให้จังหวัดเป็นเมืองหลัก ไม่ใช่เป็นเพียงเมืองผ่าน เพื่อทำให้สร้างรายได้ประชากรเพิ่มขึ้น โดยจะส่งเสริมจัดกิจกรรมวัฒนธรรมท้องถิ่น อาทิ เทศกาลสงกรานต์ งานแห่ผ้าขึ้นธาตุ งานสารทเดือนสิบ งานเทศกาลผลไม้ งานเทศกาลดนตรี 4 โซนเขา-ป่า-นา-เล ฯลฯ เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัส และเป็นการต่อยอดเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ

วารินตั้งเป้าว่า ภายในช่วงดำรงตำแหน่งจากนี้ จะทำให้รายได้ต่อหัวของประชาชนชาวนครศรีธรรมราชเพิ่มขึ้นจาก 1.2 แสนบาทต่อปี เพิ่มขึ้นอีก 10% รวมถึงเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากเดิมปีละ 2 ล้านคน เป็น 3 ล้าน ทำให้เศรษฐกิจพื้นที่โตอย่างเห็นได้ชัดทุก ๆ ปี

ส่วนการพัฒนาคุณภาพชีวิต น้ำ วารินตั้งใจแก้ปัญหาคนจรจัดที่มีเยอะ โดยจะประสานการทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ทหาร ตำรวจ รวมถึงการแก้ปัญหายาเสพติด เพื่อนำผู้ติดยาไปบำบัดให้เป็นสังคมในพื้นที่ปลอดภัย พร้อมกับส่งเสริมกีฬา ดนตรี ศิลปะ ให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติด

“3 เดือนจากนี้ น้ำ-วาริน จะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนครศรีธรรมราช เป็นพี่ใหญ่ที่ดูแลทุกองค์กรอย่างเป็นธรรม โปร่งใส พร้อมดูแลชาวนครศรีฯ อย่างเสมอภาค”

น้ำ วาริน ทิ้งท้ายว่า ความตั้งใจหากหมดการดำรงตำแหน่งนายก อบจ สมัยแรกอยากเห็นภาพจังหวัดนครศรีธรรมราชมีแต่ความสงบสุข ความรัก ความสามัคคี มีจีดีพีที่ดีกว่าเดิม เพื่อให้สมกับสโลแกนที่ว่า “นครฯ ต้องเข้มแข็ง”

ที่มาภาพ : วาริณ ชิณวงศ์ น้ำ

​