มท.1 เผยคนภาคใต้ ฝากขอบคุณรัฐบาลสั่งเร่งเยียวยาหลังน้ำท่วมได้เร็ว ปภ.เร่งโอนเงินเยียวยา 9,000 บาท ผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ คาดจบหมดก่อนกลางเดือน ม.ค. 68
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า วานนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมด่วน ศปช. โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้ลดขั้นตอนและเร่งดำเนินการจ่ายเงินเยียวยา 9,000 บาททุกครัวเรือน ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว พร้อมทั้งสั่งการให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนระลอกสุดท้ายภาคใต้ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่นายอนุทินกล่าวในที่ประชุมว่า จากการรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีให้ลงพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว และข้อสั่งการให้เยียวยาเบื้องต้นให้รวดเร็วนั้นพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัยได้ขอขอบคุณมายังรัฐบาล ที่เร่งแก้ไขปัญหาให้กับพื้นที่ภาคใต้
ส่วนความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 รัฐบาลได้ปรับจากการจ่ายตามขั้นบันไดมาเป็นทุกครัวเรือนละ 9,000 บาททั่วประเทศ
โดยกลุ่มแรกสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม-2 พฤศจิกายนปีนี้ อาทิ จังหวัดชัยนาท บุรีรัมย์ สมุทรสาคร และสิงห์บุรี (เป็นพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 57 จังหวัดแรก) ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มจังหวัดภาคใต้ที่เกิดสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 รวม 12 จังหวัด
ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี รวมทั้ง 2 กลุ่ม จำนวน 667,257 ครัวเรือน (ข้อมูลวันที่ 2 ธ.ค. 67)
นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ว่า ได้สั่งการให้พื้นที่ประสบภัยทั้ง 16 จังหวัด ดำเนินการสำรวจ จัดทำบัญชี และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
ซึ่งจังหวัดสามารถดำเนินการคู่ขนานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอน้ำลด และทยอยส่งข้อมูลเข้ามายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยเร็ว ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลและความถูกต้องอีกครั้งก่อนส่งไปยังธนาคารออมสินเพื่อทำการโอนเงินให้กับประชาชนต่อไป โดยคาดว่าสามารถทยอยจ่ายเงินช่วยเหลือฯ ตั้งเป้าให้จบทุกครัวเรือน ภายในวันที่ 16 มกราคม 2568
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการหลังจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดชี้แจงทำความเข้าใจแนวทางการดำเนินการให้ความช่วยเหลือกับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมให้อำเภอตั้งคณะทำงานตรวจสอบรายชื่อผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรี และดำเนินการลงทะเบียนพร้อมเพย์ (PromptPay) ผูกบัญชีธนาคารกับตัวเลขประจำตัวประชาชน
และส่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบและรับรองข้อมูลเพื่อเสนอกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) ให้ความเห็นชอบก่อนส่งข้อมูลมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรวบรวมและนำส่งข้อมูลให้กับธนาคารออมสินโอนเงินให้กับผู้ประสบภัยต่อไป