ทักษิณแฉพรรคร่วมชิ่ง ครม. ลั่นถ้าอยู่ก็ต้องอยู่ด้วยกัน ถ้าหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย
ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคเพื่อไทยจัดสัมมนาภายใต้โครงการเสริมศักยภาพ สส.และบุคลากรทางการเมือง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการบรรยายพิเศษหัวข้อ สถานการณ์ทิศทางโลกและการปรับตัวว่า “เมื่อ 2 วันก่อนมีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปรากฏว่ามีพรรคร่วมบางพรรคหลบ ป่วย อย่างนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณนี่หว่า ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องด้วยกันสิ วันหลังไม่อยากอยู่ต้องบอกให้ชัดเจน
เราเป็นคนพูดรู้เรื่อง ห้ามหนี ต่อไปใครหนีก็บอกว่าถ้าหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี ผมเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ ตรงไปตรงมาง่าย ๆ อยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่ก็ต้องสู้ด้วยกัน ในเมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลร่วมกัน แถลงนโยบายคุณยกมือเห็นด้วย พอได้เก้าอี้รัฐมนตรีค่อย ๆ หลบมือออก ไม่ได้ ต้องตรงไปตรงมา” นายทักษิณกล่าว
นายทักษิณกล่าวต่อว่า ประเทศไทยแปลกอย่างหนึ่ง คนไม่มีอาชีพมีฐานะดีกว่าคนมีอาชีพ แสดงว่าคนไทยไม่อยากมีเรื่อง ใครหาเรื่องก็ปิดปาก ถ้าสรรพากรได้ยิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ได้ยิน ก็ไปตรวจสอบ บางคนเมีย 3 ลูก 5 ไม่ได้ทำอาชีพอะไร บางคนส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ ทั้งที่อาชีพไม่มี บางคนถึงเวลาต้องไปหยอดเหรียญ ถ้าไม่หยอดก็รวน พอได้แล้ว ร้องไปร้องมาทำให้คนไม่เชื่อมั่นประเทศไทย
นายทักษิณกล่าวอีกว่า ตอนที่ตนถูกร้อง นักลงทุนต่างประเทศมาพบก็ถามว่าวิตกหรือไม่ ตนบอกว่าเราเปิดช่องให้ใครก็ไม่รู้มาร้อง บางคนไม่เกี่ยวข้องก็มาร้อง คนไทยเรามันเจ้าคิดเจ้าแค้น 17 ปี ตนโดนเล่นงาน มีคนมายกหูหา ตนก็บอกจบนะ จะจบก็ต้องจบ ไม่จบก็ไม่เป็นไร เตะกันคนละทีจะเป็นอะไร และตนไม่อยากเสียเวลายาว เพราะเสียมา 17 ปีก็มากพอแล้ว
“พรรคร่วมรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันจริง ๆ ตรงไปตรงมา มีอะไรไม่พอใจพูดกัน แต่สิ่งไหนที่เป็นนโยบายรัฐบาลคือต้องทำ ไม่ใช่ได้ตำแหน่งแล้วไม่เอาแล้ว รัฐบาลเป็นกลไกประชาธิปไตย มีหลายออปชั่น อยากส่งสัญญาณให้รู้ว่า วันนั้นไม่สวยเลย วันนี้ที่หายไปตอน พ.ร.ก.เข้า มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ให้รู้ว่าการทำงานร่วมกันง่ายมาก” นายทักษิณกล่าว
นายทักษิณกล่าวอีกว่า ตนไม่ได้ครอบงำนายกรัฐมนตรี ใครมีลูกสาวจะรู้ว่าพ่อกับลูกสาวคนเล็ก มันแพ้ทางกันอยู่ ตนต่างหากที่ถูกใช้ นายกรัฐมนตรีบอกว่า พ่อทำโน้น ทำนี่ให้หน่อย เงินเดือน 700 บาท เป็นผู้ช่วยหาเสียงได้วันละ 300 บาท แต่ช่วงนี้งานชุกหน่อย จ.ศรีสะเกษก็เตรียมตัวไว้ จ.เชียงใหม่มีเงินหรือไม่ ช่วงเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอาจจะรวยหน่อย
นายทักษิณยังกล่าวถึงประเด็นเอ็มโอยู 44 ด้วยว่า สมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการเซ็นร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยกับกัมพูชา เพื่อคุยกันถึงเรื่องที่เราไม่ได้คุยกัน คือเรื่องการลากเส้นเขตแดนทางทะเลของแต่ละประเทศที่ไม่ตรงกัน ซึ่งต้องอ้างกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนเรื่องเกาะกูดที่คนบอกจะเอาไปให้เขา
คนพูดอาจจะไม่ได้ดูเนื้อหาสาระ เกาะกูดเป็นของไทยมาตั้งนานแล้ว และอยู่ในสนธิสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศส มันชัดเจนแล้ว แต่วิธีลากเส้นของกัมพูชามันไม่ถูก เรามั่นใจวิธีว่าเราถูกกว่า แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นอะไร เรามาคุยเรื่องที่เรายังไม่ตกลงว่าคืออะไรกันแน่ แค่วางกรอบ แต่วันนี้โวยวายกันใหญ่ ต้องถามว่าพลังงานที่อยู่ในทะเลอีกสัก 20 ปีใช้ไม่ได้แล้ว อีก 20 ปีจะทิ้งทรัพย์สินตรงนี้สัก 4 ล้านล้านบาท ถ้าตกลงกันได้ซึ่งมี 2 ส่วนคือผลประโยชน์ในทะเลและบนบกที่ไม่มีปัญหาทำให้ยังไม่จบต้องคุยกัน ซึ่งการปักปันเขตแดนทุกด้านมีปัญหาหมด แต่เราอยู่ร่วมกันอย่างนี้ เพียงแต่เรื่องเขตแดนมันไม่จบ ต้องคุยกันด้วยหลักสากล
“เรื่องนี้คือตกลงจะคุยเรื่องที่เรายังไม่ตกลง อย่าเพิ่งโวยวาย ไม่มีใครขายชาติหรอก ถ้าขายคนเฮงซวยพอคุยได้แต่คงไม่มีคนเอา ยืนยันเรื่องบนบกไม่ต้องเถียงกัน จบไปนานแล้ว เหลือแต่เส้นทางทะเล แต่วันนี้เถียงกันแทบตาย แต่คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่ได้สัมปทานเดิม อย่างไรก็ตาม การเป็นเพื่อนดีกว่าเป็นศัตรู แต่หลักการประเทศต้องมาก่อน ไม่ใช่เป็นเพื่อนแล้วบอกยกประเทศให้เพื่อน อันนั้นมันควายแล้ว” นายทักษิณกล่าว