‘ทักษิณ’ ลั่น ต่อรองเวลาพระเจ้าขออยู่ต่อ 17 ปี ย้ำปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาส เล็งศึกษาทำแซนด์บอกซ์ในภูเก็ต หัวหิน ใช้บิตคอยน์แทนเงินสด
ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคเพื่อไทยจัดสัมมนาภายใต้โครงการเสริมศักยภาพ สส.และบุคลากรทางการเมือง โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ รวมถึงแกนนำพรรคเพื่อไทยทั้งรองนายกฯ รัฐมนตรี สส. และสมาชิกพรรคเข้าร่วมการสัมมนาอย่างพร้อมเพรียง
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะวิทยากรพิเศษบรรยายพิเศษหัวข้อ สถานการณ์ทิศทางโลกและการปรับตัวว่า ต้องขอบคุณที่มีโพเดี้ยมให้เกาะ เนื่องจากอายุ 75 ปีแล้ว ยืนพูดแบบนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี คงไม่ไหว ตอนนั่งอยู่ข้างล่างขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูด ก็คิดว่าทำไมลูกเราพูดเก่งขึ้น ดีใจที่ได้มาพูดคุยกันหลังจากที่เราไม่ค่อยได้พูดกันตัวเป็น ๆ มานาน วันนี้ได้กลับมาเมืองไทย คิดว่าคงจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองไม่มากก็น้อย เพราะเวลาเหลือไม่นานแล้ว ตอนนี้ 75 ปีแล้ว
นายทักษิณกล่าวต่อว่า ตนเป็นคนคิดบวก พูดเล่นบ้าง อะไรบ้าง ก็อย่าแปลกใจ ที่บอกขออีก 40 ปี ก็จะเจรจากับพระเจ้าในประเทศไทยว่าขอเวลาอีก 17 ปีที่หายไป และตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากลับมา มีคนบอกว่าสหรัฐอเมริกาจะจัดการกับเรา เนื่องจากเราได้เปรียบดุลการค้าจากเขา เราต้องระวังเรื่องการขึ้นภาษี รวมถึงกรณีที่นายโดนัลด์จะใช้หนี้อเมริกาจากบิตคอยน์ ที่พูดไม่ใช่จะให้ซื้อ แต่เทรนด์เป็นเช่นนั้น มีเงินคริปโตหลายสกุลออกมาแล้ว ก็มีคนบอกว่าอีกหน่อยเราจะมีสกุลเงินมากกว่าจำนวนประเทศ วันนี้คนไทยต้องคิดจะรู้ทันมันให้ได้
นายทักษิณกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอาจจะมอบให้ทางกระทรวงการคลังไปศึกษาเพื่อรับบิตคอยน์ได้หรือไม่ ใช้แซนด์บอกซ์ในแหล่งท่องเที่ยว เช่น จ.ภูเก็ต หรือหัวหินได้ไหม ใช้บิตคอยน์เพื่อให้คนถือบิตคอยน์มาใช้เงิน
อีกเรื่องที่น่าติดตามคือเหรียญที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน (stablecoin) ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาจจะให้กระทรวงการคลังศึกษา ว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยไม่ต้องพิมพ์แบงก์ที่ไหน ด้วยการออกคอยน์ โดยมีบอร์นของรัฐบาลค้ำประกัน เพื่อทำให้เงินไหลเวียนในเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโตแน่ ถ้าทำแบบนี้เชื่อว่าจีดีพีปีหน้า 3.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่น่าจะมีปัญหา และในปี 2569 หากจีดีพี่ 4.0 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ยังไม่พอใจ เพราะถ้าจีดีพีไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ประเทศเราจะด้อยกว่าประเทศอื่นในอาเซียน
นายทักษิณกล่าวด้วยว่า วันนี้เม็ดเงินในเศรษฐกิจเราถูกดูดออกหมด เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไม่อยากเสี่ยง ไม่ปล่อยกู้ เราต้องหาเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยไม่ทำให้เป็นภาระของประเทศ วันนี้หนี้สาธารณะเราเยอะมาก ฉะนั้น เราต้องทำให้จีดีพีเติบโต และลดการขาดดุล หรือจัดเก็บภาษีให้เพียงพอ แม้ยากทั้งคู่ แต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง เพื่อทำให้หนี้สาธารณะลดลง พรรคเพื่อไทยเราต้องทำให้ได้ โดยปีหน้าจะเป็นปีแห่งโอกาสของคนไทย
วันนี้งบประมาณปีหน้าเป็นปีที่เราจะต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ต้องลดหนี้สาธารณะลงให้ได้ และต้องให้รัฐวิสาหกิจที่มีหนี้เยอะออกพ้นจากรัฐวิสาหกิจ เอาเอกชนมาลงทุนแทนรัฐ เช่น การลงทุนป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ เราก็ต้องหาทางทำ แต่จะทำอย่างไร ถ้ารัฐไม่มีเงิน งบฯลงทุนมันต่ำ ก็ต้องให้เอกชนมาลงทุน เอกชนต้องคิดว่าเขาจะทำประโยชน์คุ้มค่าหรือไม่ ต้องไปดูตรงนี้ วันนี้เราพูดเรื่องการผูกขาด เรื่องไฟฟ้า เรามีหน่วยงานของรัฐ แต่ทุกคนต้องมีสวัสดิการของตัวเอง ทำให้ค่าไฟฟ้าของเรามีราคาแพง เราไม่ควรเห็นเลข 4 บาท เลข 3 บาทปลายก็ไม่ควรเห็น ต้องอยู่ 3 บาทกลาง ๆ เพราะประชาชนอยู่ไม่ได้
นายทักษิณยังกล่าวว่าพวกเราพูดเร็ว หรือพูดไม่ครบทำให้คนงง อย่าง รมว.คลังพูดเรื่องการขึ้นภาษี VAT 15% ช็อกกันทั้งประเทศ แต่การพูดต้องพูดทั้งระบบให้เห็นว่าไทยวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของโลก เช่น วันนี้คนที่มาลงทุนไทย บีโอไอให้สิทธิพิเศษทางภาษี 0% ไม่เก็บภาษีเขา แต่เขาต้องไปจ่ายภาษีที่บ้านเขา 15% กติกาสากลให้เก็บภาษีขั้นต่ำ 15% วันก่อนบริษัทที่ได้รับบีโอไอมาหาตน ตนบอกว่าถ้าไอเก็บยู 15% ยูไม่ต้องจ่ายที่บ้านยูโอเคไหม เขาบอกว่าจ่ายที่ไทยหรือจ่ายที่นู่นเท่ากัน แล้วจ่ายที่ไทยจะได้อะไร
ตนบอกว่าแน่นอน จะมีวิธีการลดภาษีให้คุณเอา 15% มาใช้จ่ายในประเทศไทย ทั้งการขยายโรงงาน การอัพเกรดเครืองจักร ให้เป็น Green Factory เขายินดีหมด