
นายกฯ มอง ‘ทักษิณ’ ฟาดอีแอบน่าจะพูดจากประสบการณ์ ยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลไร้ปัญหาร่วมมือกันดี ด้าน ‘อนุทิน’ มั่นใจไม่ใช่ตัวเอง ยันจุดยืนไม่ผิดกฎหมายก็ต้องสนับสนุน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดถึงบุคคลพรรคร่วมรัฐบาลบางคนทำตัวเป็นอีแอบไม่ร่วมพิจารณากฎหมายภาษีว่า ตนคิดว่าท่านน่าจะพูดจากประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ทำงานและมีพรรคร่วมอยู่ด้วยกัน โดยร่วมมือซึ่งกันและกัน ซึ่งรัฐบาลนี้ก็เป็นอย่างนั้นอยู่
“พรรคร่วมทุกท่าน ตัวดิฉันเองสามารถรบกวนได้ สามารถยกหูหาขอความช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ กับหัวหน้าพรรคร่วมทุกพรรค และตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร วันนั้นมีหลายท่านติดภารกิจ ตนจึงคิดว่าท่านทักษิณพูดในทำนองที่ว่าถ้ามีเรื่องอะไรต้องช่วยกัน ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน แนวคิดในวงกว้างแบบนั้นมากกว่า“
เมื่อถามว่า ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงใครเป็นพิเศษใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ปฏิเสธว่าไม่นะคะ ไม่รู้สึกว่าส่งถึงใคร เพราะหลายท่านก็ทราบว่าลา
เมื่อถามว่า หรือคุณทักษิณได้ยินอะไรมาแล้วเป็นห่วงหรือเปล่า น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน จริง ๆ คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ท่านน่าจะพูดจากประสบการณ์ ว่าพรรคร่วมต้องเหนียวแน่น
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านก็ออกมาพูดว่ารัฐบาลไม่มีเสถียรภาพแล้ว และสั่นคลอน นายกรัฐมนตรีหัวเราะ พร้อมกล่าวว่า ฝ่ายค้านชมกันบ้างก็ได้ จะได้เกิด Vibe ดี ๆ ขึ้นในประเทศ
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มองว่าเป็นการพูดถึงคนที่ไม่เข้าร่วมประชุม ซึ่งตนก็บอกแล้วว่าได้เข้าประชุม และมีการติดต่อประสานงานอยู่ตลอดเวลา และขออย่าใส่ใจเรื่องพวกนี้ เพราะวันนี้ (15 ธ.ค.) นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซีย ซึ่งตนก็จะไปด้วย พรรคกล้าธรรมก็ไป
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านออกมาวิจารณ์ถึงเสถียรภาพรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ไม่มีหรอก
เมื่อถามย้ำว่า มีความจำเป็นต้องเคลียร์ใจกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าไม่ต้อง เมื่อเช้าก็ยัง โทร.รายงานนายกฯ เพื่อขอแนวทางหลังจากที่จับกุมพวกลักลอบเข้าเมืองจากประเทศเมียนมาจำนวน 68 คน ว่าจะดำเนินการอย่างไร อย่างนั้นการทำงานอย่างเป็นทีม เมื่อกระทรวงมหาดไทยจับก็มีประเด็นที่ไปเกี่ยวกับกรณีที่เมียนมาจับ 4 ลูกเรือไทย จึงต้อง โทร.รายงานนายกฯ แสดงให้เห็นว่าเป็นการทำงานที่ให้เกียรติกัน และแสวงหาความร่วมมือ เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน การทำงานต้องเดินไปข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การส่งสัญญาณของนายทักษิณหมายถึงใคร นายอนุทิน สายหน้าพร้อมกล่าวว่า “ไม่ใช่หมายถึงผมแน่ ๆ ก็แล้วกัน แต่หมายถึงใครก็ต้องไปถามท่านดู เพราะท่านเป็นผู้พูด และท่านไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่เราก็รู้ว่าไม่ใช่เรา เพราะท่านหมายถึงคนที่ไม่ได้ไปร่วมประชุม ครม. แต่ผมไปมันก็จบ ผู้สื่อข่าวก็เห็น คนที่ยืนถัดจากนายกฯก็คือผม ในการแถลงข่าวหลังการประชุม ครม. ขอย้ำว่าอย่าไปใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หยุมหยิม
เมื่อถามว่าการออกมาพูดเช่นนี้ของนายทักษิณ เป็นการแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่าตนไม่ทราบว่านายทักษิณพูดในฐานะอะไร แต่เรื่องนี้ผ่านไปแล้ว และไม่มีอะไรต่อเนื่อง และไม่มีใครออกมายอมรับว่าเป็นตัวเอง และในวันอังคารที่ 17 ธันวาคมก็จะประชุม ครม.นัดต่อไป ทุกอย่างก็จบ ที่ผ่านมาต้องดูว่ามีอะไรที่เกิดความติดขัด เพราะพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ก็ไม่มี และโดยหลักการก็ถูกต้องแล้วที่ต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน พรรคไหนเสนออะไร พรรคร่วมรัฐบาลก็สนับสนุน เช่นเดียวกัน พรรคร่วมรัฐบาลเสนออะไร พรรคแกนนำก็สนับสนุน ทุกอย่างคือความต้องการทั้ง 2 ฝั่ง
เมื่อถามต่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลได้สนับสนุนนโยบายของพรรคแกนนำอยู่แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าทุกคนทำอยู่แล้ว ตราบใดที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญและไม่ผิดกฎหมาย เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติจะไม่ทำได้อย่างไร เราพูดชัดเจน อะไรที่อยู่ในนโยบาย เรารับทราบ และก็ต้องสนับสนุน ตอนนายกฯ แถลงนโยบายต่อสภาเรารับฟังหมดแล้วและก็สนับสนุน
ส่วนอะไรที่ไม่ได้อยู่ในนโยบาย ถ้าจะทำต้องมาพูดคุยกัน เพราะมีหลายเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในนโยบาย ก็มาพูดคุยและสนับสนุนกัน โดยอยู่ในกรอบที่ไม่ผิดกฎหมาย อย่าทำร้ายและเป็นผลร้ายกับประเทศ และประชาชน ถ้าเป็นตามกรอบนี้ เราก็ตกลง ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นเราก็ No ย้ำว่าเราสนับสนุนซึ่งกันและกัน พรรคเพื่อไทยเสนออะไร พรรคร่วมทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคกล้าธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคชาติไทยพัฒนา ก็สนับสนุน หากพรรคร่วมเสนออะไรและพรรคแกนนำสนับสนุน เท่านี้ก็ไปได้ตลอดอยู่แล้ว
ในช่วงท้าย นายอนุทินได้หันมาถามกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนหล่อหรือยัง