
สวนดุสิตโพลสำรวจความเห็น ผลงาน 3 เดือน รัฐบาลแพทองธาร 39% มองยังประเมินผลงานไม่ได้ ด้านจุดแข็ง เกือบครึ่งมองมีที่ปรึกษาเก๋าเกม มีประสบการณ์ กว่า 70% มอง ‘แจกเงิน 10,000 บาท’ เป็นนโยบายที่เห็นผลชัดสุด
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “3 เดือนรัฐบาลแพทองธาร” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,162 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 10-13 ธันวาคม 2567 พบว่ากลุ่มตัวอย่าง มองจุดแข็งของรัฐบาลแพทองธาร คือการมีที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ ร้อยละ 49.38 ภาพรวมผลงาน 3 เดือนของรัฐบาลยังประเมินไม่ได้ ร้อยละ 39.85 ต่ำกว่าที่คาดหวัง ร้อยละ 28.14 และยังไม่เชื่อมั่นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ร้อยละ 54.99
โดยมองว่านโยบายที่เห็นผลชัดเจนที่สุดใน 3 เดือนที่ผ่านมา คือการแจกเงิน 10,000 บาท ร้อยละ 71.44 เรื่องที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วนยังคงเป็นเรื่องการแก้ปัญหาค่าครองชีพ สร้างงาน เพิ่มรายได้ ร้อยละ 70.84 สุดท้ายสิ่งที่ประชาชนอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ในฐานะผู้นำประเทศคือ เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลดค่าครองชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชนอย่างทั่วถึง ร้อยละ 49.14
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลโพลสะท้อนให้เห็นว่า ผลงาน 3 เดือนรัฐบาลแพทองธารยังประเมินไม่ได้ และบางส่วนมองว่าต่ำกว่าที่คาดหวังไว้ แม้นโยบายระยะสั้นจะสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนได้ระดับหนึ่ง แต่ในฐานะที่รัฐบาลมีที่ปรึกษามากประสบการณ์และขึ้นชื่อเรื่องการทำให้ “คนไทยมีกิน มีใช้” ประชาชนจึงคาดหวังเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ “สื่อสารเป็น-เห็นผลชัด-จับต้องได้” ให้มากขึ้น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เบญจพร พึงไชย ผู้ช่วยคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ภายใต้รัฐบาลแพทองธารผ่านมา 3 เดือน เสมือนช่วงทดลองงานสำหรับรัฐบาลไม้ต่อชุดนี้ ซึ่งในระยะเวลาที่เข้ามาต้องเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม ความยากจน โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อชีวิตของประชาชนมายาวนาน
ซึ่งสามเดือนที่ผ่านมา ยังไม่เห็นการดำเนินงานแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับผลสำรวจที่สะท้อนว่า ภาพรวมผลงาน 3 เดือนของรัฐบาลยังประเมินไม่ได้ ร้อยละ 39.85 และต่ำกว่าที่คาดหวัง ร้อยละ 28.14 ทำให้ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่นในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ถึงร้อยละ 54.99 เพราะนโยบายที่รัฐบาลทำได้เพียงอย่างเดียว คือแจกเงิน 10,000 บาท
สำหรับสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพื่อช่วยเรื่องปากท้องและรายได้ ซึ่งการแถลงครั้งนี้ไม่ได้มีการพูดถึงผลงาน แต่เป็นการกล่าวถึงสิ่งที่รัฐบาลจะทำในปีหน้า หากถึงเวลาที่ต้องแถลงผลงานครั้งต่อไปจะมีอะไรที่จับต้องได้ และทัชใจประชาชนให้เกิดความเชื่อมั่นหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป