
ชูศักดิ์ รับปาก ไอติม พริษฐ์ นำประเด็นประชามติรัฐธรรมนูญ 2 ครั้ง แทน 3 ครั้ง หารือพรรคร่วมรัฐบาลให้เสร็จในรัฐบาลนี้
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังหารือกับนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่เดินทางหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า นายพริษฐ์ได้นัดหารือร่วมกับประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าการทำประชามติเพียง 2 ครั้งนั้นเพียงพอ พร้อมกับชวนตัวแทนรัฐบาลเข้าหารือด้วย ซึ่งตนก็รับปากว่าจะเข้าพบ เพื่อหารือพร้อมกัน
หากทำประชามติ 2 ครั้งได้ ทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จภายในรัฐบาลนี้ จึงรับปากว่าจะไปร่วมหารือ นอกจากนี้จะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ว่าจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้งหรือไม่ หลังจากที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรเคยไม่บรรจุเข้าวาระ แต่เมื่อนายพริษฐ์ชวนให้รัฐบาลเสนอร่างประกบ ตนจึงบอกว่าขอไปหารือก่อน
ด้านนายพริษฐ์กล่าวว่า หลังจากเปิดประชุมสภาเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ตนและ สส.พรรคประชาชนได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม แก้ไขมาตรา 256 และหมวด 15/1 ให้มี ส.ส.ร. มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมี 2 ด่านที่ต้องฝ่าให้ได้ ตนมองว่าหากทั้งรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม) ให้ความร่วมมือมากเท่าใด โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะมีมากขึ้น
ทั้งนี้ ด่านแรกคือทำอย่างไรให้ประธานรัฐสภายอมบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าวาระ ซึ่งเมื่อยื่นไปอีกครั้ง โดยภายใน 15 วัน หรือภายในวันที่ 27 ธันวาคม ประธานรัฐสภาจะต้องมีการหารือกับผู้เสนอ และวินิจฉัยว่าจะบรรจุร่างฉบับนี้หรือไม่ หากทำได้การเดินหน้าจัดทำประชามติก็จะสามารถทำได้ ตนจึงมาขอความร่วมมือจากรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือด่านแรก
นายพริษฐ์กล่าวว่า ตนได้หารือกับนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายพงศ์เทพก็จะร่วมหารือในครั้งดังกล่าวด้วย ตนมองว่านอกจากร่างของพรรคประชาชนแล้ว หากมีร่างของพรรคเพื่อไทยหรือร่างของ ครม.เข้ามาประกบ ก็จะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งหากผ่านด่านแรกได้แล้ว ก็จะเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
และเชื่อว่ารัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญ ต่อ สส.ฝั่งรัฐบาล และ สว. เพื่อให้แนวทางดังกล่าวผ่านทั้ง 3 วาระ ส่วนการหารือกับประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเกิดขึ้นเมื่อใดนั้น ต้องอยู่ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้กำหนด แต่หากไม่มีข้อติดขัดอะไรร่างก็จะถูกบรรจุทันที แต่เนื่องจากเรื่องนี้มีข้อขัดแย้ง จึงคาดว่าจะต้องมีการหารือก่อนบรรจุวาระ
เมื่อถามว่ารัฐบาลมั่นใจใช่หรือไม่ว่าการทำประชามติ 2 ครั้งจะไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นายชูศักดิ์กล่าวว่า เดิมมติ ครม.จะให้ทำประชามติ 3 ครั้ง แต่เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้การทำประชามติ 3 ครั้งคงไม่ทัน จึงเกิดความคิดว่าจะทำอย่างไรให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จได้ ภายในรัฐบาลชุดนี้ เพราะฉะนั้นอย่าถามว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของความเห็น อย่างไรก็ตามประเด็นอยู่ที่ว่า ประธานรัฐสภาจะบรรจุร่างหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็จะนำไปสู่การทำประชามติ 2 ครั้งได้
เมื่อถามว่าจะต้องมีการทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลถึงการทำประชามติ 2 ครั้งหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ใจความหลักอยู่ที่ประธานรัฐสภา หากบรรจุก็จะเป็นการทำประชามติ 2 ครั้งโดยอัตโนมัติ ก็จบ