นายกฯแจงข่าว 4 ลูกเรือไทยถูกสั่งจำคุกในเมียนมา จะมีอภัยโทษตามมา

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

นายกฯได้รับรายงาน 4 ลูกเรือไทยถูกเมียนมาสั่งจำคุก ชี้เป็นกระบวนการปกติ จะมีการอภัยโทษต่อเนื่องตามมา รัฐไทยประสานเรียบร้อยแล้ว ด้านมาริษ รมว.ต่างประเทศยันไม่ใช่การติดคุก เป็นแค่กระบวนการภายในของเมียนมา ไม่ยืดเยื้อ 

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา สั่งจำคุก 4 ลูกเรือไทย ว่าได้รับรายงานข้อมูลจากนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ว่ากระบวนการนี้เป็นกระบวนการปกติ ที่จะต้องให้มีการพิพากษาดำเนินคดีแบบนี้ แล้วจะมีการอภัยโทษต่อเนื่องตามมา ซึ่งเราได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ประสานเรียบร้อยแล้วว่าจะมีการอภัยโทษเกิดขึ้น

เมื่อถามว่า ที่นายกฯเคยระบุว่าจะมีข่าวดีเรื่อง 4 ลูกเรือไทยหลังปีใหม่ ยังอยู่ในกรอบเดิมใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตอนนี้ยังเป็นไปตามกรอบเดิม

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า 4 ลูกเรือไทยจะต้องติดคุกไปก่อนใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารให้นายมาริษ ในฐานะ รมว.ต่างประเทศเป็นผู้ตอบคำถามดังกล่าวว่า ไม่ใช่ติดคุก เพียงแต่เป็นกระบวนการภายในของเขาเหมือนทั่วไป ซึ่งเขามีข้อหาว่าไปละเมิดน่านน้ำ เพราะฉะนั้น ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของเขาที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากไม่ทำอะไรก็เป็นความผิดตามรัฐบาลของเขา

แต่เราได้มีการประสานความร่วมมือขอเออร์ลี่รีลีส หรือขอปล่อยตัวก่อนกำหนดมาตั้งแต่ตอนต้นแล้ว แต่อย่างที่ตนเรียน ต้องการให้กระบวนการภายในของเขาเรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งก็เหมือนกับกระบวนการภายในของเราที่ต้องมีการดำเนินคดี ต้องมีการพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามว่ากรอบดังกล่าวจะไม่ยืดเยื้อไปใช่หรือไม่ นายมาริษกล่าวว่าขณะนี้ไม่มี

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางเมียนมาระบุว่าอาจจะต้องติดคุก 4-6 ปี นายมาริษกล่าวว่า นั่นคือกระบวนการพิจารณาของเขา แต่ในความร่วมมือ ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดี ในความร่วมมือระหว่างประเทศสามารถที่จะคุยกันเพื่อให้มีการอภัยโทษได้

เมื่อถามว่า ล่าสุดน่านน้ำระนองมีการจับกุมชาวเมียนมา ตรงนี้จะมีการเจรจาแลกเปลี่ยนกันหรือไม่ นายมาริษกล่าวว่าคงไม่เกี่ยวกัน

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่า ยืนยันว่า 4 คนไทยจะได้รับการปล่อยตัวหลังปีใหม่ใช่หรือไม่ นายมาริษกล่าวว่า “ขณะนั้น เป็นอย่างนั้น”

ด้าน น.ส.แพทองธารกล่าวตอบคำถามเดียวกันย้ำว่า “ที่คุยไว้ตอนนี้เป็นอย่างนี้”

ทั้งนี้ ศาลจังหวัดเกาะสอง ได้พิจารณาคดีกรณีเรือ ส.เจริญชัย 8 พร้อมลูกเรือ 31 คน (ไทย 4 คน เมียนมา 27 คน) เข้าไปทำการประมงในเขตทับซ้อนทางทะเล ซึ่งเมียนมาอ้างสิทธิเป็นเขตแดนทางทะเลของตนเมื่อวันที่ 30 พ.ย. และถูกจับกุมมาไว้ที่สถานีตำรวจเกาะสองจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ล่าสุดมีรายงานข่าวอย่างไม่เป็นทางการเข้ามาว่า ศาลจังหวัดเกาะสองได้ตัดสินกรณีเจ้าของเรือ (ไต๋เรือ) 2 ข้อกล่าวหาคือ ลักลอบทำประมงโดยผิดกฎหมาย/ลุกล้ำน่านน้ำเมียนมาโดยไม่ได้รับอนุญาต ตัดสินจำคุก 5 ปี กับข้อกล่าวหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ตัดสินจำคุกอีก 1 ปี รวมเป็น 6 ปี (5+1 ปี) และปรับเป็นเงิน 20,000 จ๊าต

ส่วนลูกเรืออีก 3 คน ศาลเกาะสองสั่งจำคุกคนละ 3 ปี ข้อกล่าวหาลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย และตัดสินจำคุกอีก 1 ปี ข้อกล่าวหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมจำคุกทั้งหมด 4 ปี (3+1 ปี) และปรับเป็นเงินคนละ 30,000 จ๊าต

เป็นที่น่าสังเกตว่า คำตัดสินดังกล่าวเป็นกระบวนการฝ่ายเดียวของเมียนมา หลังจากที่ทั้งเรือและลูกเรือถูกเรือรบเมียนมาระดมยิงและเข้าจับกุม โดยยังมีข้อโต้แย้งและข้อสงสัยที่ว่า กองเรืออวนล้อมจับไทยเข้าไปทำการประมงในเขตแดนทางทะเลของเมียนมา หรือเขตทับซ้อนที่ทั้ง 2 ประเทศอ้างสิทธิกันอยู่

“ในขั้นตอนนี้ลูกเรือไทยทั้ง 4 คนจะต้องถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาลก่อน ส่วนจะได้รับการอภัยโทษเป็นกรณีพิเศษ โดยอ้างความสัมพันธ์ทางการทูตหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ใช่การปล่อยตัวโดยปราศจากเงื่อนไขแบบที่ทางรัฐบาลไทยออกข่าวมาก่อนหน้านี้แน่นอน” แหล่งข่าวกล่าว