
ครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กำหนดให้ที่ดินตั้งโรงผลิตน้ำประปาหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เกี่ยวเนื่องได้รับลดภาษีร้อยละ 50 เริ่มบังคับใช้ 1 ม.ค. 68
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
นายคารมกล่าวว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ (กค.) เสนอ โดยกำหนดให้ที่ดินเป็นที่ตั้งของโรงผลิตน้ำประปาและโรงผลิตน้ำประปา รวมถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นที่ใช้ประโยชน์เกี่ยวเนื่องกับการผลิตน้ำประปาได้รับลดภาษีในอัตราร้อยละ 50 ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย และให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป
เพื่อให้สอดคล้องกับกระบวนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ต้องเริ่มดำเนินการสำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568 อันจะทำให้ อปท.สามารถจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตน้ำประปาให้แก่กิจการผลิตน้ำประปาซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้จัดทำประมาณการการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการดำเนินมาตรการดังกล่าว ตามมาตรา 27 และมาตรา 32 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แล้ว โดยรายงานว่า การดำเนินการตามมาตรการภาษีดังกล่าวจะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท.สูญเสียรายได้ประมาณ 54.45 ล้านบาทต่อปี แต่จะเป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตน้ำประปาให้แก่กิจการผลิตน้ำประปาซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ อันจะเป็นการส่งเสริมการดำเนินกิจการผลิตน้ำประปาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวม
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการผลิตน้ำประปายังคงมีภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ตั้งของอาคารซ่อมและบำรุงรักษาภายในโรงงานผลิตน้ำ โดยไม่ได้รับการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามมาตรการดังกล่าว