
ชูศักดิ์ชี้สภายืนยันทำประชามติชั้นเดียว เป็นสัญญาณที่ดีแก้รัฐธรรมนูญ-มองพรรคร่วมเสียงแตกเป็นสิทธิ แต่จะไม่เจอทางตัน ลั่นเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีลุ้นเสร็จทันรัฐบาลนี้ถ้าเหลือทำประชามติ 2 ครั้ง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภามีมติเสียงข้างมากยืนยันการทำประชามติแบบชั้นเดียว โดยตีตกร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่กรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมพิจารณาเสนอให้ทำ 2 ชั้นว่า โดยหลักเมื่อกฎหมายถูกยับยั้งไว้ต้องรอ 180 วัน และเมื่อครบสภาผู้แทนราษฎรจะยกนำกฎหมายฉบับนี้ที่มีมติไปมายืนยันอีกครั้งด้วยเสียงข้างมากข้าง ถ้าเสียงข้างมากยืนยันตามนั้นก็แปลว่าสามารถนำกฎหมายฉบับนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญถือว่าใหญ่กว่า
เมื่อถามว่า การทำประชามติชั้นเดียวถือเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่าเป็นประโยชน์ เพราะจะทำให้การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องต่าง ๆ และทำให้มันไปได้
ส่วนโอกาสทำให้การร่างธรรมนูญเสร็จทันรัฐบาลชุดนี้มีมากขึ้นหรือไม่นั้น นายชูศักดิ์กล่าวว่า ถ้าตัดสินใจทำประชามติ 3 ครั้งคงไม่ทัน เว้นแต่ขณะนี้มีความพยายามจะขอพบนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประธานสภา บรรจุวาระเรื่องการแก้ไขรัฐธรรสนูญ มาตรา 256 และทำประชามติเพียงสองครั้ง ซึ่งนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ ก็มาขอความร่วมมือกับตน ซึ่งไม่ได้ขัดข้องและยินดีเข้าไปพูดคุยกับประธานสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่ากรณีการลงมติของพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องการทำประชามติที่ไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน จะทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่าพูดได้เพียงว่าเป็นสิทธิของเขา เพราะเรื่องพวกนี้เป็นความเห็นและเรื่องความเชื่อ ตนไม่อยากไปวิจารณ์ เพราะความเห็นทางกฎหมายแตกต่างกันได้
เมื่อถามย้ำว่า จากกรณีดังกล่าวจะทำให้เกิดรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ในการทำงานเรื่องอื่น ๆ นายชูศักดิ์กล่าวว่า มันคงไม่ถึงขั้นจะทำให้ทางเดินตีบตันลง ซึ่งก็ว่ากันไป แต่ก็อาจจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นโดยราบรื่นได้ ขอย้ำว่าตนยึดนโยบายรัฐบาลนี้ที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เขียนไว้ในนโยบายชัดเจน โดยจะเร่งรัดการทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้เร็วที่สุด ฉะนั้น ถ้ารัฐบาลเดินตามนี้ก็จะนำไปสู่การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็ว