47 สนามเลือกตั้ง อบจ. ‘สมรภูมิ’ ที่มองข้ามไม่ได้

เลือกตั้ง อบจ.

ใกล้เข้ามาแล้ว 23-27 ธ.ค.นี้ จะเป็นวันเปิดรับสมัคร ชิงนายก อบจ. 47 จังหวัด และสภา อบจ. 76 จังหวัด

เพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เข้าคูหาลงคะแนนในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2568

47 จังหวัดที่เกิดการแข่งขัน ชิงเก้าอี้ นายก อบจ. ประกอบด้วย

กระบี่, จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, เชียงราย, เชียงใหม่, ตรัง, ตราด, นครนายก, นครปฐม, นครพนม, นครราชสีมา, นนทบุรี, นราธิวาส, น่าน, บึงกาฬ, บุรีรัมย์, ประจวบคีรีขันธ์,ปราจีนบุรี, ปัตตานี, พังงา, พัทลุง, พิจิตร, แพร่, ภูเก็ต, มหาสารคาม, มุกดาหาร, แม่ฮ่องสอน, ยะลา, ระยอง, ลพบุรี, ลำปาง, ลำพูน, ศรีสะเกษ, สกลนคร, สงขลา, สตูล, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สระบุรี, สิงห์บุรี, สุพรรณบุรี, สุราษฎร์ธานี, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ

ลองไล่ดู จะพบว่ามีสนามใหญ่ ๆ งบประมาณมาก มีงานบริหารที่ซับซ้อน ต้องการผู้บริหารที่รอบรู้ครบเครื่องอยู่หลายสนามเหมือนกัน

ในระดับสนามชนช้าง ผู้สมัครถ้าตัดสินใจลงแล้ว ก็ไม่อยากแพ้ให้เสียชื่อ-ชั้น ก็น่าจะเป็น ชลบุรี, เชียงใหม่, เชียงราย, นครราชสีมา, นนทบุรี, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ, สมุทรปราการ, สุพรรณบุรี ฯลฯ

ADVERTISMENT

แต่ถึงกระนั้น บางจังหวัด การแข่งขันอาจไม่เกิดขึ้น ช้างตัวใหญ่ ๆ เดินมาจ๊ะเอ๋กันแล้วไม่อยากรบแตกหัก

เกิดการหลีกทางให้กัน แล้วไปขอคะแนนจากประชาชน ถ้าผู้มีสิทธิไฟเขียวลงคะแนนให้ ก็ได้เก้าอี้ไปครอง

ADVERTISMENT

จะเป็นที่ไหนบ้าง เปิดรับสมัคร 23-27 ธ.ค.นี้ ก็จะได้รู้กัน

หลายจังหวัด อาจคุยกันได้ในบรรยากาศสันติ แต่หลายจังหวัด มีเสียงปืนคำรามก่อนจะได้คำตอบ

อย่าง ปราจีนบุรี ที่เกิดการสังหารคนดัง “สจ.โต้ง” หรือ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ ในบ้าน “โกทร” นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปัจจุบันที่กำลังหมดวาระ

สจ.โต้ง อยากให้ภรรยา คือ “สจ.จอย” หรือ ณภาภัช อัญชสาณิชมน รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ลงแข่งขันแทน “โกทร” ที่อายุ 85 ปี เริ่มเปรย ๆ ว่าจะวางมือ

แต่เกิดความเห็นไม่ลงรอย ก่อนลงเอยด้วยสาดกระสุนใส่ สจ.โต้ง แบบไม่ยั้ง งานนี้ ตำรวจแจ้งข้อหาหนักกันเกือบจะถ้วนหน้า

เลยกลายเป็นโอกาสในการ “เคลียร์พื้นที่” ปราจีนบุรี อย่างจริงจัง

ล่าสุด ถ้าฟังจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคกล้าธรรม ที่ใกล้ชิดกับ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร คงทราบกันแล้วว่า “สจ.จอย” จะลงสมัครชิงนายก อบจ.รอบนี้ ในนามพรรคเพื่อไทย

สำหรับปราจีนบุรี เป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นรอยต่ออีสานกับภาคกลาง-ตะวันออก ทางรัฐบาลเล็ง ๆ จะนำเข้าไปรวมเป็นพื้นที่อีอีซีด้วย

ถ้ามีท้องถิ่นที่แข็งแรง มีผู้นำที่มีแนวคิดทันสมัย มีพลัง อาจแปลงโฉม
จังหวัดนี้ให้เป็นเพชรเม็ดงามขึ้นมาได้

ส่วนสนามอื่น ๆ ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษก็ยังมีอีกมาก

โดยเฉพาะที่มีผลทางการเมือง อย่างสนามเชียงราย เชียงใหม่ ที่พรรคเพื่อไทย แกนนำรัฐบาลให้ความสำคัญมาก

อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ก็เริ่มแย้ม ๆ แล้วว่า จะลงไปช่วยหาเสียงพื้นที่ไหนบ้าง

ภายในต้นปี 2568 ก็คงได้รับทราบกันว่า แต่ละพื้นที่ทั้ง 47 จังหวัด จะมีใครเป็นนายก อบจ.กันบ้าง

และจะส่งผลต่อการเมืองในระดับภาพกว้างอย่างไรบ้าง

การเมืองระดับชาติเข้าสู่ปีที่สองมา 3 เดือนกว่าแล้ว

ถ้าเล่นกันตามวาระ ระยะเวลา 4 ปีนั้น ไม่ได้ยาวนานจนเกินรอ

ยิ่งคนอยู่ในอำนาจ นั่งเพลิน ๆ เผลอ ๆ ไม่ได้ ต้องทำงานแข่งกับเวลา

“ผลทางการเมือง” จากการเลือก อปท. จะสะท้อนไปถึงสภาผู้แทนฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง และสภาสูงที่มาจาก “ระบบเลือก”

นายก อบจ. มาจากเขตเลือกตั้งทั้งจังหวัด ส่วนสภา อบจ.เลือกมาจากอำเภอ

จึงเป็น “ฐานทางการเมือง” ที่สำคัญ ทั้ง สส. และ สว.

ผูกพันกันอยู่แบบนี้ พรรคการเมือง จึงละทิ้งไปไม่ได้