จุลพันธ์ เชื่อไม่ช้าคลอด กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ​ รับไตรมาส 3 ตึงมาก

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์

รมช.คลังเชื่อคลอดร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ใช้เวลาไม่นาน ยอมรับไตรมาส 3 ตึงมาก-ยืนยันการลงทุนไม่มีเส้นสาย-เกี้ยเซียะ 

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ระบุว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ตนยังไม่ได้ยินเลย เพราะความเห็นของสภาพัฒน์ที่ส่งมาที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ได้มีประเด็นนี้ ถ้าตนจำไม่ผิด เขาให้ดูเรื่องผลกระทบ เพราะกฎหมายนี้ต้องออกมาควบคุม กำกับ ดูแล พร้อมกับเยียวยา

รวมไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการพนันอาจไม่ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ถูกต้อง แต่การศึกษาของกระทรวงการคลังเกิดผลกระทบใน 2 ช่วงคือ ช่วงก่อสร้าง GDP โตตกปีละ 0.2% ซึ่งไม่รวมการพนันหรือ Gaming อะไร เป็นเรื่องปกติ และการที่จะนำมาคำนวณเป็น GDP จะต้องมีการผลิตเกิดขึ้นในหลายส่วน

จึงยืนยันว่ามันมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอยู่แล้ว เพราะมูลค่ามันกว่าแสนล้าน แต่ถ้าเรามีมากกว่า 1 จุด มันก็จะมีการเติบโตมากกว่านั้น ซึ่งตัวเลขนี้เป็นเพียงการประเมินเรื่องของการลงทุน ยังไม่ใช่ผลพลอยได้ เนื่องจากโครงการที่จะทำคือ Manmade​ Destination ในพื้นซึ่งที่จะต้องมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องอีกมากมาย ที่จะสร้างรายได้ให้กับประชาชนรอบพื้นที่ และสามารถเก็บรายได้เข้ารัฐได้

เมื่อถามว่าวางไทม์ไลน์​ไว้หรือไม่ ว่าร่างกฎหมายจะมีผลบังคับใช้เมื่อไร นายจุลพันธ์กล่าวว่าเร็วที่สุด รัฐบาลชุดนี้ทำงานเร็วอยู่แล้ว ตนเข้าใจว่าหลายอย่างมีขั้นตอนตามกฎหมาย มันมีกระบวนการที่อยู่นอกเหนือมือของพวกตน แต่เราทราบว่าการขับเคลื่อนเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์

จึงเชื่อว่าไม่มีใครชักช้า ขณะนี้อยู่ในมือของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าไม่นาน เพราะความล่าช้าเป็นต้นทุนทางโอกาส และถ้าล่าช้าความแตกต่างของผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนมันจะเห็นได้ชัด พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ ไม่เหมือนกับที่หลายสำนักข่าวไปบอกว่าเป็นกาสิโน และเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ มันก็ทำให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องออกกฎหมายเฉพาะ เพราะการลงทุนบางประเภทไม่สามารถดึงดูดด้วยกลไกปกติได้ จึงต้องใช้กลไกและกฎหมายพิเศษ ในการที่จะขับเคลื่อนได้จริง แต่ก็ยอมรับว่าถ้าจะให้บังคับใช้ได้ไตรมาส 3 ก็ตึงมาก ส่วนไตรมาส 4 ก็ตอบไม่ได้จริง ๆ

ADVERTISMENT

นายจุลพันธ์ยังกล่าวต่อด้วยว่า สำหรับบริษัทที่จะลงทุนจะต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในไทย แต่ไม่ได้จำกัดเรื่องของสัญชาติ เพราะจะมีการเขียนกฎหมาย ให้ผู้ลงทุนต้องมีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการคัดกรอง ให้รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นเบอร์ใหญ่ และเป็นนักลงทุนจริง เพราะการทำโปรเจ็กต์ขนาดนี้ต้องเป็นคนที่มีความพร้อมและมีศักยภาพ มีประสบการณ์ เคยทำธุรกิจประเภทนี้มาก่อน

นายจุลพัน​ธ์​ยังยืนยันด้วยว่า ตนยังไม่เคยพบกับใครตามที่เป็นข่าว แล้วก็ไม่ต้องมีใครมาพบตนด้วย เพราะตนมีหน้าที่ทำกฎหมาย แต่เรื่องสถานที่ ใครทำอะไรที่ไหน จะมีคณะกรรมการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะมีการเขียนกฎหมายให้รอบคอบและรัดกุม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตนที่จะทำกฎหมายให้คลีนที่สุด ใครจะได้ทำอะไรที่ไหน ต้องเสนอเข้ามาแข่งขันกัน และรัฐก็จะได้ประโยชน์จากมิติต่าง ๆ ทั้งการจัดเก็บภาษี มิติสังคม และสิ่งปลูกสร้างที่จะเกิดขึ้นมา อะไรที่จะว้าวก็ต้องไปวัดกันข้างหน้า

ADVERTISMENT

ส่วนที่ภาคเอกชนมีความสนใจเป็นอย่างมาก ก็ต้องขอขอบคุณ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมและศักยภาพ ทำให้ทั้งในและต่างประเทศพร้อมโดดมาลงทุน โดยยืนยันว่าไม่มีเรื่องของเส้นสาย หรือเกี้ยเซียะอะไรในรัฐบาล เพราะในรัฐบาลไม่มีใครกล้าทำ

ส่วนที่ภาคเอกชนกังวลเรื่องการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม นายจุลพัน​ธ์​กล่าวว่าอยู่ที่การร่างกฎหมายและกลไกการตรวจสอบมีเยอะแยะ ทั้งนักร้อง จึงเชื่อว่าไม่มีใครกล้าทำ