
กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ผ่าน ครม.ไปเมื่อ 13 ม.ค. เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาในฐานะฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล
ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว อนุญาตให้มีธุรกิจกาสิโนได้ในสัดส่วน 10% ซึ่งรัฐบาลย้ำว่าน้อยมาก
สื่อเสนอข่าวร่าง พ.ร.บ.นี้ โดยเรียกสั้น ๆ ว่า กม.กาสิโน มักเกิดคำถามทำนองว่า เรียกอย่างอื่นมิได้หรือ ซึ่งสะท้อนว่า คำว่ากาสิโน หรือบ่อน ยังเป็นเรื่องกระอักกระอ่วนใจของคนไทยไม่น้อย
แต่ในโลกของความจริง ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน มีธุรกิจบ่อนหรือกาสิโนกันเป็นส่วนมาก
อย่างกัมพูชา หรือลาว หรือมาเลเซีย นั้นมีมานานแล้ว
ที่ปอยเปตนั้น คนไทยไปทำงานไปเล่นกันมาก รถตู้วิ่งขวักไขว่ โดยเฉพาะในห้วงวันหยุดหรือสุดสัปดาห์
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามา พร้อมกับภาระหนัก คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังจากอยู่ในระบบหลังรัฐประหาร 2557 เกือบสิบปี
ก็เลยผลักดันเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนอยู่ด้วย เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ
แต่ละจุดที่เกิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท
สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1.2-2.4 แสนล้านบาทต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5-10% กระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 13%
นั่นคือประมาณการของรัฐบาล ถึงผลที่จะเกิดจากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ในมุมมองประเทศตะวันตกเห็นว่า จะมีผลทางเศรษฐกิจสูงมาก
มติชนออนไลน์ รายงานว่า CNBC สื่อรายใหญ่ของสหรัฐชี้ว่า การเปิดกาสิโนในไทยจะสร้างรายได้ถึง 1.87 แสนล้านบาท หรือราว 1% ของจีดีพี เมื่อเริ่มดำเนินการ
ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ไทยมีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ใหญ่โต เป็นตลาดการท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในภูมิภาคที่ทุกคนหวาดกลัว แต่ยังคงดิ้นรนเพื่อฟื้นตัวจากโควิด หากกาสิโนในไทยได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างเหมาะสม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีศักยภาพแซงหน้ากาสิโนอื่น ๆ ในเอเชียได้
การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย แต่การเติบโตยังคงซบเซา จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากการระบาดของโควิด-19 และมันไม่น่าจะเกิดขึ้นจนกว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะกลับมาแบบเต็มที่
ผู้บริหารธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่งระบุว่า การท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการแข่งขันสูง ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคกำลังหาวิธีที่จะทำให้การท่องเที่ยวกลายเป็นเสาหลักของการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
การเปิดกาสิโนให้ถูกกฎหมายจะทำให้ประเทศไทยมีตำแหน่งที่แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต เนื่องจากเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยมีขนาดใหญ่และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากอยู่แล้ว
บทวิเคราะห์นี้คาดคะเนว่า กาสิโนไทยจะตั้งอยู่ที่ไหน มีรายชื่อหยิบยกขึ้นมามากมาย
ตั้งแต่ กทม. ที่บทวิเคราะห์เห็นว่า เป็นพื้นที่พัฒนาแล้ว ไม่น่าจะทำอะไรมาก กาสิโนน่าจะไปพื้นที่ประชากรน้อยกว่า
นอกจากนี้ คือ ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก คือ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ และพัทยา
และคาดการณ์ว่า หากเปิดกาสิโนอย่างเต็มรูปแบบ 5 ใบอนุญาต ใน 4 เมืองใหญ่ รายได้จากกาสิโนในไทยอาจสูงถึง 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.14 แสนล้านบาทในปี 2031 แซงหน้ารายได้จาก 8.3 พันล้านดอลลาร์ของสิงคโปร์
นั่นคือมุมมองในเชิงตัวเลข แต่รัฐบาลคงต้องทำงานหนักเพื่อผลักดันร่าง พ.ร.บ.นี้
ทั้งการอธิบายสังคมไทย ที่มีคนหลายรุ่น ทั้งรุ่นใหม่ รุ่นกลางและเก่า
รุ่นใหม่ ๆ และกลาง ที่โตมากับระบบออนไลน์ อาจเข้าใจง่ายหน่อย นอกจากนี้จะเป็นเรื่องที่อ่อนไหว
เพราะไปพัวพันกับเรื่องหลักทางศาสนาและความคิดความเชื่อ
ภาระหนัก คือรัฐบาลต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะควบคุมผลกระทบที่จะมีต่อสังคมได้อย่างไร
และต้องมีความชัดเจนถึงผลประโยชน์ที่จะตกถึงประชาชนคนไทยที่ชีวิตยังลำบากอยู่
เส้นทางสู่ “ความบันเทิง” ตาม พ.ร.บ.นี้ จะบันเทิงขนาดไหน ต้องติดตามกัน