ไทม์ไลน์ คอมเพล็กซ์ เท่าลาสเวกัส ของ “ทักษิณ” เปิดบริการปีไหน

ตามคำบอกของ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ในศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) บนเวทีปราศรัยที่นครพนม ถึงการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะทำให้เหมือน ลาสเวกัส ของสหรัฐอเมริกา

“จะทำให้เหมือนลาสเวกัส ที่เป็นสถานที่หนึ่งสถานที่ มีโรงแรมเป็น 1,000 ห้อง มีคอนเสิร์ต มีสนามกีฬา มีหอประชุม มีการจัดงานสารพัด อยากมีสวนน้ำ และมีบางคนจะเสนอแม้กระทั่งจะสร้างที่เล่นสกี สร้างหิมะเทียมให้เล่นสกีได้ และพื้นที่ไม่ถึง 10% จะเป็นพื้นที่กาสิโนเหมือนสิงคโปร์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เงินมาเที่ยว”

“แต่ละแห่งจะมีการจ้างงาน 20,000 คน และเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ซึ่งเป็นแนวคิดที่รัฐบาลได้ทำต่อจากรัฐบาลที่แล้ว ที่สอบถามประชาชนแล้วคนค้านน้อยมาก จะมีการควบคุมทุกอย่างให้ถูกต้อง คนไทยที่จะไปเล่นได้ต้องมีฐานะ จะควบคุมให้ถูกต้องตามหลัก ตามที่ประเทศที่พัฒนาแล้วเขาทำกัน”

หลังลงจากเวที “ทักษิณ” ตอบคำถามนักข่าวถึงคำถามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์จะกลายเป็นแหล่งฟอกเงินและมีปัญหาอื่น ๆ ตามมา “ทักษิณ” บอกว่า “ไม่หรอก ความไม่เข้าใจของคนวิจารณ์มีเยอะ การอธิบายยิ่งจำเป็นต้องให้เข้าใจ คนส่วนใหญ่เท่าที่สำรวจมาชัดเจน แม้คนไม่เห็นด้วยมีอยู่แล้วแต่ไม่มาก สำคัญคือคนที่เอามาพูดมีข้อมูลข้อเท็จจริงที่ยังไม่ค่อยชัด”

“บางทีต้องโทษฝ่ายทำกฎหมายที่อธิบายไม่ชัดเจน เมื่อกฤษฎีกาบอกว่ากฎหมายน่าจะครอบคลุมด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ด้วย แต่เขาไประวังกติกากาสิโนเยอะ จริง ๆ แล้วกาสิโนมีเพียงไม่เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมด ไปดูเนื้อหากฎหมายอาจไปเน้นเรื่องกติกาการจัดตั้งกาสิโนมากไปนิดนึง กฤษฎีกาวิจารณ์มาตรงนี้ จึงขอให้กฤษฎีกาไปช่วยทำกฎหมายให้ครอบคลุม รวมทั้งด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กาสิโนเป็นเพียงพื้นที่ไม่เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมด”

“พยายามทำให้กฎหมายพร้อมภายในปีนี้ และต้นปีหน้าอาจจะเป็นการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูการวางกติกาและรายละเอียด เมื่อคืนนี้ฟังข่าวมีคนบอกว่าเป็นการให้ใบอนุญาต ยืนยันว่าไม่ใช่ แต่ต้องมีการประกวดราคากันอย่างเปิดเผย ใครสนใจต้องมาแข่งกันเสนอว่าจะสร้างอะไรที่เป็นประโยชน์กับการท่องเที่ยวบ้าง และจะให้ค่าตอบแทนรัฐอย่างไร”

ADVERTISMENT

ขณะที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เงื่อนไขการลงทุนนั้นจะเป็นการก่อสร้างใหม่ในพื้นที่ใหม่ เป็นพื้นที่ของรัฐ มีขนาดที่ดินราว 300 ไร่ จะมีทั้งโรงแรมมากกว่า 4-5 แห่ง 5,000 ห้อง มีสวนสนุกขนาดใหญ่ ศูนย์ประชุมนานาชาติ และจัดคอนเสิร์ตได้ตลอดทั้งปี หรือกิจกรรมอื่น ๆ ขณะที่ส่วนของกาสิโนนั้นจะมีเพียง 3-5% เท่านั้น เพราะฉะนั้นการลงทุนแต่ละแห่งจะใช้เงินมากกว่า 1 แสนล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3-5 ปี

โดยปีที่ 3 คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายจะให้เปิดบริการภายใน 2572 ก่อนที่ศูนย์เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในเมืองโอซากาจะเปิดบริการในปี 2573 ส่วนอีกแห่งที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังไม่มีกำหนดว่าจะเปิดเมื่อใด”

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ การวิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจว่า ของกระทรวงการคลังประเมินว่ารายได้คาดว่าจะมาจากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1.2-2.4 แสนล้านบาทต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5-10% โดยเฉพาะการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 13% สามารถลดช่องว่างทางรายได้ระหว่างช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวและนอกฤดูกาลได้แคบลงกว่าเดิม

และอาจเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ 5-10% ต่อปี กระตุ้นการใช้จ่ายช่วง Low Season เพิ่ม 13% ทำให้การท่องเที่ยวสม่ำเสมอต่อเนื่องทั้งปี เพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อคนต่อทริปอยู่ที่ 66,043 บาท จากเดิมที่ใช้จ่ายอยู่ที่ 44,000 บาท

สร้างการจ้างงาน 9,000-15,000 ตำแหน่ง โดยการลงทุนแต่ละจุดจะช่วยสร้างรายได้ให้กับรัฐไม่ต่ำกว่า 1.2-4 หมื่นล้านบาท แม้แต่ช่วงก่อสร้าง Entertainment Complex ยังทำให้ GDP โตตกปีละ 0.2% เนื่องจากมูลค่าการลงทุนโครงการจุดละไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท

สร้างรายได้ให้รัฐประมาณ 12,037-39,427 ล้านบาทต่อปี รายได้ภาษีจากกิจการอื่น ๆ เช่น โรงแรม 5 ดาว สวนสนุก (8,773-35,093 ล้านบาทต่อปี) ขั้นต่ำ 3 กิจการกาสิโน เช่น ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ภาษีการเล่นพนัน 204 ล้านบาท ยังมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการเข้ากาสิโนอีกขั้นต่ำ 3,700 ล้านบาทต่อปี สามารถนำรายได้ไปใช้พัฒนาประเทศ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ระบบดูแลสังคม ระบบการศึกษา และการสร้างสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ

ดังนั้น อาจสรุปไทม์ไลน์การมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้ดังนี้ ปี 2568 กฎหมายเสร็จ ปี 2569 จะมีการตั้งคณะกรรมการตามกฎหมายที่บังคับใช้ขึ้นมาวางกติกา และเปิดการสัมปทานใบอนุญาต ปี 2570-2572 ดำเนินการก่อสร้างและเปิดใช้บริการ