
ทักษิณ มั่นใจ ไทย คุยกับสหรัฐ รู้เรื่อง ปมกำแพงภาษี เพราะเป็นพันธมิตรเก่าแก่ เชื่อ หลัง ทรัมป์ ผ่านพิธีสาบานตน เศรษฐกิจโลกจะโต เพราะพันธบัตรจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
ที่ จ.มหาสารคาม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมสาบานตนวันที่ 20 มกราคมนี้ มีอะไรจะแนะนำรัฐบาลหรือไม่ว่า สิ่งที่ทรัมป์กำลังจะเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อโลก 2 เรื่อง คือ 1.การเพิ่มภาษีสำหรับประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเรื่องนี้ต้องเจรจาการค้าทีละประเทศ แต่ของเราเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ก็น่าจะอยู่ในข่ายที่พูดกันรู้เรื่อง และเราไม่ใช่เป็นประเทศที่ร่ำรวยแล้ว
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า 2. คริปโต เป็นเงินพิเศษที่พึงจะต้องมีเงินสำรองด้วย เป็นเรื่องที่เราจะต้องเตรียมตัวเหมือนกัน ซึ่งความจริงพรรคเพื่อไทยได้ประกาศไปแล้วว่า เราต้องยอมรับการซื้อขายคริปโต ที่ไม่มีความเสี่ยงคือมีสินทรัพย์แบ็กอัพอยู่ ซึ่งเราก็เตรียมการไว้แล้ว ฉะนั้น เราจะเป็นประเทศแรก ๆ ที่ทันเกมเรื่องนี้ในเอเชีย และวันนี้เรามีการแก้กฎสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้ประกันภัยทั้งหลาย สามารถรักษากองทุน โดยการเก็บเป็นคริปโต หรือคอยน์ ที่ไม่มีความเสี่ยงได้ คือเราต้องลดความเสี่ยง และเริ่มต้นในสิ่งที่ไม่เสี่ยง เพราะไม่เช่นนั้นประชาชนจะไม่เข้าใจ
เมื่อถามถึง กรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่าเศรษฐกิจโลกหลังจากนี้จะฝืดลง เพราะคาดการณ์ไม่ได้ว่าหลังจากนี้ทรัมป์จะมีแนวทาง หรือจะทำอะไร นายทักษิณ กล่าวว่า ตนมองว่าเศรษฐกิจจะโตขึ้น เนื่องจากมีเม็ดเงินที่เรียกว่าเม็ดเงินมากกว่าพันธบัตรเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
อย่างที่พยายามบอกว่า Stable Coin ออกเหรียญที่ใช้พันธบัตรรัฐบาลแบ็กอัพ ก็เพราะว่าต้องการเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และวันนี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเม็ดเงินอยู่ในระบบเศรษฐกิจน้อย จึงทำให้เศรษฐกิจโตน้อยกว่าคนอื่น และพยายามต้องทำเศรษฐกิจให้โตเท่า หรือมากกว่าคนอื่น “ต้องอธิบายให้คนที่ไม่เข้าใจ ให้เข้าใจ ถ้าคนที่ไม่เข้าใจก็พยายามเงี่ยหูฟังให้เข้าใจหน่อย เปิดสมองหน่อย อย่าเป็นน้ำเต็มแก้ว แล้วจะเข้าใจ พอเข้าใจแล้ว จะได้ประโยชน์ร่วมกัน” นายทักษิณ กล่าว