
ภูมิธรรมขอคนเห็นต่าง ‘เอ็นฯ คอมเพล็กซ์‘ อย่าค้านทำล่าช้า-ปัดตกข้อเสนอ ปชป.ยันแถลงต่อสภา ถือว่าได้มติจาก ปชช.แล้ว-ชี้เงินดิจิทัลเฟส 3 ยังไม่สรุป คาดจ่ายไตรมาส 2-3 ให้คนขึ้นทะเบียนกว่า 15 ล้านคน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวบนเวทีปราศรัยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ. บอกเงินดิจิทัลวอลเลต เฟส 3 จะได้ประมาณมีนาคมถึงเมษายน ว่าตนไม่ทราบรายละเอียดนายทักษิณพูดอย่างไร แต่ขณะนี้เงิน 10,000 บาท เฟส 2 จ่ายภายใน 27 มกราคมนี้ ประมาณ 3 ล้านคน วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท
ส่วนเฟสที่ 3 กระทรวงการคลังประชุมและเตรียมประกาศ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่าจะจ่ายเงินได้ประมาณไตรมาส 2-3 ซึ่งเวลาก็ใกล้เคียงกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งจะจ่ายเงินให้ประมาณ 15 ล้านคน เป็นงวดที่ขึ้นทะเบียนไว้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร
นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงไทม์ไลน์กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเสร็จสิ้นเมื่อใดนั้น ว่าไม่ทราบ เพราะจะต้องดูตามกระบวนการ ขณะนี้ผ่านมติ ครม.แล้ว ส่วนจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ เป็นเรื่องอนาคตที่เราไม่ทราบ ขณะนี้ผ่านมาตามกระบวนการก็ไม่มีปัญหาอะไร และเป็นเรื่องที่เราจะทำ Man-Made Destination เป็นการเน้นการท่องเที่ยว และมีหลายอย่างที่ครบวงจร ซึ่งทุกประเทศที่มีศักยภาพก็ทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และนำเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน เพื่อให้ควบคุมได้ง่ายขึ้น ดีกว่าปล่อยให้อบายมุขเต็มไปหมด จะกลายเป็นแหล่งผู้มีอิทธิพลเข้ามาหาประโยชน์
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องนิดเดียว เมื่อเทียบกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่ถือว่าเป็นเรื่องหลัก แต่คนพูดถึงเรื่องนี้น้อย เมื่อเทียบกับกาสิโนที่มีเพียง 10% อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราไม่ได้ปิดกั้นคนไทย แต่ก็หวังว่าชาวต่างชาติจะเข้ามา
ส่วนที่มีการเรียกร้องจากพรรคประชาธิปัตย์ให้มีการทำประชามตินั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า สิ่งที่วิจารณ์รับฟังทั้งหมด แต่ไม่อยากให้เหมือนโครงการดิจิทัลวอลเลตที่ใช้เวลานาน นโยบายต่าง ๆ ถูกดึงให้ช้าลง เพราะทุกอย่างเป็นแพ็กเกจทั้งหมดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
จึงอยากให้เป็นไปตามกระบวนการทางประชาธิปไตย ซึ่งความเห็นต่างมีได้ แต่อย่าทำให้กระบวนการต่าง ๆ ถูกดึงให้ช้าลง อยากให้กำลังใจกันและช่วยกันทำงานดีกว่า เพราะผลที่เกิดขึ้นตรวจสอบได้ หากมีการคัดค้านแล้วเรื่องตกไปรัฐบาลจะต้องถอนเรื่องนี้ออกและทำเรื่องใหม่
ฉะน้น ขอให้เวลารัฐบาล เพราะแถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว ซึ่งตามหลักประชาธิปไตย ไม่ว่าประเทศไหนก็ตามเมื่อมีการเสนอเข้ามาก็ถือว่าเหมือนได้ประชามติมาแล้ว เพราะเป็นการเสนอนโยบายต่อสาธารณะ ประชาชนทุกคนรับรู้ ในรัฐสภามีตัวแทนประชาชนจากทั่วประเทศให้การรับรองไปแล้ว จะต้องทำประชามติอะไรอีก และขึ้นอยู่กับการตีความ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการทำประชามติเหมือนกัน หากความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด ประเทศจะเดินหน้ายาก