
ผู้นำฝ่ายค้าน ถามรัฐบาลแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 เมื่อไหร่ ทั้งที่ปัญหาเกิดทุกปี แต่ไร้แผนแก้ชัดเจน นโยบายลดการเผาไม่ชัดเจน แนะทำความเข้าใจเกษตร
ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้และป้องกันปัญหาล่วงหน้าได้ เนื่องจากเกิดมาแล้วหลายปี หากรัฐบาลมีมาตรการที่ชัดเจนและวางแผนล่วงหน้าอย่างดีเพียงพอ จะสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นได้ดีกว่านี้ยิ่งขึ้น
เช่นเรื่องมาตรการเงินอุดหนุนให้ชาวนา หรือเกษตรกรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับซื้ออ้อยสดหรืออ้อยเผา ยังเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามีเกษตรกรเผาอ้อยนำไปจำหน่ายแก่ผู้ประกอบการหลายร้อยคัน ซึ่งสาเหตุเกิดจากความไม่ชัดเจนของรัฐบาล หากสื่อสารชัดเจนแต่แรกว่าจะมีมาตรการรับซื้ออ้อยสดอย่างไร รวมถึงมาตรการปรับโรงงานที่รับซื้ออ้อยเผาอย่างไร จะทำให้เกษตรกรและโรงงานสามารถวางแผนก่อนการเก็บเกี่ยวล่วงหน้าได้
แต่ผลที่เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลไม่มีความชัดเจน ทำให้เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วด้วยวิธีการเผา แต่รัฐบาลขอความร่วมมือไปยังโรงงานว่าไม่ให้รับซื้อ กลายเป็นว่ามีอ้อยเผาที่ค้างอยู่จำนวนมาก ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มีเริ่มรอนำเข้า ครม.นานแล้ว แต่ขาดความชัดเจนรวดเร็วในการจัดการต่อเกษตรกรล่วงหน้า หรืออีกตัวอย่างคือ การให้เงินอุดหนุนเกษตรกรหรือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ที่รัฐบาลสามารถออกมาตรการกระตุ้นลดการเผาได้
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า อีกหนึ่งส่วนการบูรณาการข้อมูลการทำงานร่วมกับ GISTDA ที่มีเทคโนโลยีในการตรวจจับ ดูภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อดูพื้นที่ที่มีการเผาไหม้ ซึ่งจะต้องนำข้อมูลบูรณาการร่วมกันใช้ในการติดตามตรวจสอบว่ามีพื้นที่ใดใช้วิธีการเผา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่ารัฐบาลแก้ปัญหาจริงจังแล้วหรือยัง อีกทั้งยังมีวาระเดินทางไปต่างประเทศ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า การปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่อย่าลืมว่าปัญหาเรื่องฝุ่นเป็นปัญหาที่เกิดซ้ำทุกปี และพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่สื่อสารกับประชาชนโดยตลอดว่าต้องการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 โดยเร็ว คำถามคือโดยเร็วเมื่อไหร่
ที่ผ่านมาอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้คือปัญหาฝุ่นเกิดขึ้นซ้ำทุกปี เพียงแต่รอมาตรการที่ชัดเจนของภาครัฐ หากมีมาตรการที่ชัดเจนและสื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา เข้าใจตรงกัน เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นได้มากขึ้น
นายณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณคือเรื่องไฟป่า ปีงบประมาณ 2568 พบว่าคำของบประมาณของท้องถิ่นใช้ในการจัดการไฟป่า ขอ 1,000 ล้านบาทได้รับการจัดสรรเพียงกว่า 100 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ท้องถิ่นมีงบประมาณไม่เพียงพอในการจัดการไฟป่า โดยหวังว่าในงบประมาณปี 2569 สภาได้รับความชัดเจนว่ารัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณให้กับท้องถิ่นเพื่อจัดการไฟป่ามากขึ้นหรือไม่