
นายกฯ ตั้งเป้าปลายปี 2568 ลงนาม FTA ให้ครบทั้ง EU มุ่งเปิดเส้นทางการค้าไทยสู่สหภาพยุโรป เผยต่างชาติหลายรายสนใจมาลงทุน บอก ‘ดูไบพอร์ต เวิลด์’ คือเอกชนหลักที่คุยโครงการแลนด์บริดจ์ มองโอกาสเป็นไปได้สูง
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยกล่าวถึงภาพรวมการประชุม “เวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรั่ม” (World Economic Forum) ปี 2025 หรือ WEF 2025 ว่า เรื่องที่ชัดเจนคือการมี การลงนามบันทึกข้อตกลง เอฟตา (EFTA หรือ สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป ) แม้ว่าอาจจะยังไม่ครบทั้งสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งมีเพียงแค่4ประเทศ แต่ก็มีแผนว่าภายในปีนี้ ไม่เกินปลายปี เราจะลงนามให้ครบทั้งสหภาพยุโรปให้ได้ เพื่อเปิดเส้นทางการค้าของประเทศไทย ให้เข้ากับสหภาพยุโรป
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่ และเป็นความสำเร็จของประเทศ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว และรัฐมนตรีทุกคนที่เดินทางไปก็มีความภาคภูมิใจ ที่ได้ไปลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว
ส่วนที่ได้เข้าหารือกับผู้บริหารบริษัทต่างชาติมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในเมืองไทยมากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มีการสอบถามเรื่องอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เซมิคอนด็อคเตอร์ และ ดาต้าเซ็นเตอร์ต่างๆ รวมไปถึงเรื่องพลังงานสีเขียว ว่าไทยมีความพร้อมที่จะโปรโมทหรือไม่ และหากเข้ามาลงทุนในไทยแล้วจะสามารถมีพลังงานที่เพียงพอหรือไม่
โดยตนเองก็ได้ขายไปหมดแล้วว่า ไทยมีความพร้อม สามารถเข้ามาลงทุนได้ ขณะเดียวกันยังได้มีการสอบถามเรื่องของทักษะของคนไทย เพราะหากยังไม่เคยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เข้ามาลงทุนลักษณะนี้ จะพัฒนาคนอย่างไร
ตนได้คุยกับบริษัทต่างๆแล้วว่า หากจะเข้ามาตั้งบริษัทในประเทศไทย อยากจะให้เข้ามาช่วยพัฒนาทักษะให้กับคนไทยด้วย ส่วนไทยเองก็ต้องพัฒนาคนของเราให้ควบคู่กันไป โดยเฉพาะคนรุ่นหลัง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุนในอนาคตข้างหน้า เพื่อเพิ่มโอกาสการจ้างงานของเด็กจบใหม่ เช่น บริษัท Google ที่เข้ามาลงทุนในเมืองไทย ก็จะมีการฝึกทักษะให้กับคนไทย โดยการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย ให้สถาบันการศึกษามีการสอนและฝึกอาชีพในอนาคต ซึ่งตนเองก็ได้พูดคุยกันอย่างครอบคลุม เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น เวลาที่มีธุรกิจใหม่เข้ามา คนไทยจะได้รู้จักและมีทักษะ ตนเชื่อว่าคนไทยมีศักยภาพในการเรียนรู้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การพูดคุยกับบริษัท ดูไบพอร์ต เวิลด์ (DP WORLD) ที่ระบุว่ามีการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ อยู่นั้นมีความคืบหน้าอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการต่อยอดจาก นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งบริษัท ดูไบพอร์ตฯ ให้ความสนใจ ในเรื่องการทำท่าเรือหลายๆที่ และในบางที่ก็ต้องมีการเปิดประมูล
ส่วนเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ที่ได้พูดคุย ทางบริษัทดูไบพอร์ตฯ ก็มีความพร้อมสำหรับการลงทุน และได้ศึกษาแล้วว่ารายละเอียดลึกๆมีอะไรบ้าง ซึ่งมีความคืบหน้า ที่เขาได้ศึกษา และมีโอกาสเป็นไปได้สูง ตนเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับประเทศ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ก็จะค่อยๆอธิบาย เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
เมื่อถามว่า บริษัท ดูไบพอร์ตเวิลด์ จะเป็นบริษัทเอกชนรายหลักของโครงการนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงแล้ว โครงการแลนด์บริดจ์ มีบริษัทเอกชนหลายรายสนใจ แต่ขณะนี้บริษัท ดูไบพอร์ต เวิลด์นี้จะเป็นบริษัทหลัก ที่เราได้คุยกัน