
นายกฯนั่งหัวโต๊ะประชุม ครม. จับตาถกแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพิ่มเติม-คมนาคม เตรียมของบฯ 140 ล้านชดเชยจ่ายค่ารถไฟฟ้า หลังให้ ปชช.ขึ้นฟรี 7 วัน-มหาดไทย จ่อของบฯ 5 พันล้าน เยียวยาอุทกภัยเพิ่ม
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม ณ บริเวณสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะนำคณะผู้บริหารเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานเทศกาลตรุษจีนประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2568
และบริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ นำคณะผู้บริหารเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อมอบดอกไม้ที่ระลึกเนื่องในวันทหารผ่านศึก ประจำปี พ.ศ. 2568 และจำหน่าย “ดอกป๊อปปี้”
อย่างไรก็ตาม วันนี้ต้องติดตามในที่ประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีจะมีข้อสั่งการเรื่องการแก้ไขปัญหา ฝุ่น หมอกควัน และ PM 2.5 เพิ่มเติมในแต่ละกระทรวง และจะมีการหารือกับรัฐมนตรีเพื่อรับทราบรายงาน และข้อสรุป รวมทั้งแนวทางปฏิบัติของทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าว
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคม จะมีการเสนอของบฯกลางประมาณ 140 ล้านบาท เพื่อนำไปชดเชยรายได้ให้กับผู้ประกอบการทั้งกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) หรือ BTS และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ภายหลังมีมาตรการลดฝุ่น โดยให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้าฟรีเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค. 68
รวมไปถึงกระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐนำร่องการ Work from Home หลังก่อนหน้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 สูง
ส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เสนอของบฯกลางเพิ่มเติม 5,261.04 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยครัวเรือนละ 9,000 บาท สำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัยระหว่างวันที่ 3 พ.ย.-31 ธ.ค. 67 รวม 1,136 ครัวเรือนให้ได้รับการช่วยเหลือเช่นเดียวกับพื้นที่อุทกภัยในพื้นที่อื่น ๆ
ด้านกระทรวงวัฒนธรรมจะเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช โดยเสนอให้ ครม.วันนี้เห็นชอบเอกสารที่จัดทำขึ้นตามหลักเกณฑ์ของยูเนสโก โดยที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบให้เสนอเอกสารฉบับสมบูรณ์ดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบในการนำส่งไปยังศูนย์มรดกโลก ณ กรุงปารีส ให้ทันกำหนดเวลาภายในวันที่ 31 มกราคมนี้ เพื่อให้ทันการเข้าสู่กระบวนการประเมินขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของคณะกรรมการมรดกโลกตามขั้นตอนต่อไป