“อิ๊งค์” ดึงบิ๊กคอร์ปจีนลงทุนไทย แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ถกรถอีวี

แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนจีนเป็นทางการ 5-8 ก.พ.นี้ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-จีน แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เดินหน้าอุตสาหกรรมรถยนต์อีวี-Semiconductor จับตาดีลเจรจาหัวเว่ย-BGI Group ลงทุนไทย ขับเคลื่อน Medical and Wellness Hub

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 5-8 ก.พ.นี้ว่า จะเป็นการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ จากนั้นจะเดินทางต่อไปที่เมืองฮาร์บิน โดยจะมีรัฐมนตรีบางคนร่วมคณะเพื่อเข้าร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวครั้งที่ 9

ทั้งนี้ การไปเยือนจีนครั้งนี้ จะพูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี และการสนับสนุน หลักการ One Country Two Systems หรือหนึ่งประเทศสองระบบ และส่งเสริมการเชื่อมโยงอุปทาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคตและ Semiconductor รวมถึงไฟฟ้าและยานยนต์ เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ กีฬา นอกจากนั้นจะเร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ให้เชื่อมโยงไทย ลาว จีน

และยังขอความร่วมมือด้านการศึกษาการวิจัย รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อยกระดับพัฒนาบุคลากรของประเทศไทยให้มีคุณภาพมากขึ้น นอกจากนั้นจะมีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือหลายฉบับ เพื่อยกระดับความร่วมมืออย่างรอบด้านในทุกมิติ

คอลเซ็นเตอร์เรื่องหลัก

ส่วนเรื่องแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ต้องพูดคุยกันอยู่แล้ว เพราะเป็นปัญหาของทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะกับจีน โดยจะไปพูดคุยกันและสอบถามถึงเทคโนโลยีและวิธีการต่าง ๆ ที่จะนำมาช่วย ในส่วนของจีน จะเป็นการขอความร่วมมือซึ่งกันและกัน ว่าจะช่วยกันทั้งสองฝั่งอย่างไร และคิดว่าทางจีนก็เล็งเห็นปัญหาเช่นกัน ดังนั้นการขอความร่วมมือไม่น่าจะเป็นปัญหา

“เรื่องนี้เป็นเรื่องหลักและคิดว่าจะคืบหน้าแน่นอน เพราะปัญหาเรื่องนี้ก็เป็นปัญหากับจีนเช่นกัน การไปคุยกันต้องมีความคืบหน้า และได้รับผลกลับมาเล่าให้คนไทยฟังให้รอดูว่าเราจะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป”

ADVERTISMENT

เปิดลงทุนแลนด์บริดจ์

ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 5 ประจำปี 2568 นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการในการประชุมดังนี้ เรื่องการเยือนจีนอย่างเป็นทางการ จะมีการผลักดันและติดตามความร่วมมือสำคัญ ได้แก่

1.ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ให้เร่งส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนด้านการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะในสาขาแห่งอนาคตที่สำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัล เช่น EV, Semiconductor, Data Center และขอให้คณะรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับมาตรการกำกับดูแล มาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัยของสินค้าอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร

ADVERTISMENT

รวมถึงขอให้เดินหน้าพัฒนาโครงการ Land Bridge และพร้อมเปิดรับการลงทุนจากประเทศจีน หากนักลงทุนจีนให้ความสนใจ นอกจากนี้ ครม.ได้มีการอนุมัติโครงการรถไฟไทย-จีน ระยะที่ 2 เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางจากจังหวัดนครราชสีมา-หนองคาย ขอให้ติดตามการดำเนินการอย่างใกล้ชิด

2.ด้านความปลอดภัยและการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาตินั้น ขอให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และยกระดับมาตรการต่าง ๆ โดยไม่ยอมให้ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติใช้ไทยเป็นทางผ่าน โดยเฉพาะแก๊ง Call Center อย่างใกล้ชิด

ขอแพนด้าคู่ใหม่

3.เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศให้ดำเนินการดังนี้ ให้เร่งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความพร้อมต่ออนาคต และให้สนับสนุนการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม Soft Power และรวมถึงการเตรียมความพร้อมในการรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่จากจีน ในฐานะทูตสันถวไมตรีในปีนี้

ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในด้านของการท่องเที่ยว ตนจะร่วมคณะเพื่อไปสร้างความเชื่อมั่นเรื่องการท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาไทยด้วย

จ่อคุยหัวเว่ยดึงลงทุนเพิ่ม

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนครั้งนี้ ทางรัฐบาลไทยจะมีการเจรจาทางธุรกิจกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน เพื่อดึงการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย อาทิ พบผู้บริหาร Huawei ในการร่วมมือด้านเทคโนโลยีกับไทย, บริษัท BGI Group บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และจีโนมิกส์ ให้มาลงทุนในไทย เพื่อส่งเสริมการเป็น Medical and Wellness Hub ของภูมิภาค

อนุมัติรถไฟไทย-จีน เฟส 2

กระทรวงคมนาคมได้ขอเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย กรอบวงเงิน 341,351.42 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 8 ปี (ปีงบฯ 68-75) โดยให้รัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายปี และให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ และค้ำประกันเงินกู้ให้ตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการระยะที่ 2 ประกอบด้วย การดำเนินการใน 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากโครงการระยะที่ 1 ที่จะเริ่มต้นที่จังหวัดนครราชสีมา ไปจนถึงจังหวัดหนองคาย วงเงิน 335,665.21 ล้านบาท ระยะทาง 357.12 กม. ประกอบด้วย 5 สถานี ได้แก่ 1) สถานีบัวใหญ่ 2) สถานีบ้านไผ่ 3) สถานีขอนแก่น 4) สถานีอุดรธานี และ 5) สถานีหนองคาย โดยจะเริ่มก่อสร้างในปีงบฯ 68 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีงบฯ 75 (รวม 8 ปี)

ส่วนที่ 2 การก่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้านาทา วงเงิน 5,686.21 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นการก่อสร้างศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายสินค้าทางรถไฟ ทั้งขาเข้า-ขาออก ระหว่างทางขนาด 1 เมตร ของรถไฟไทย และขนาดทางมาตรฐาน 1.45 เมตร ของโครงการรถไฟลาว-จีน ในรูปแบบศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service)

สำหรับโครงการระยะที่ 2 เมื่อพิจารณา EIRR เชิงกว้าง กรณีโครงการระยะที่ 1+2 พบว่า มีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 13.23 ซึ่งยังมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ อีกทั้ง คกก.การรถไฟฯ มีมติเห็นชอบโครงการระยะที่ 2 และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ ได้เห็นชอบรายงาน EIA ของโครงการระยะที่ 2 ด้วยแล้ว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการว่าขอให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ เร่งรัดดำเนินโครงการระยะที่ 1 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากล่าช้ากว่าแผนมานานแล้ว จากนั้น ครม.ได้เห็นชอบในหลักการโครงการระยะที่ 2 โดยให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ ดำเนินการตามความเห็นของสภาพัฒน์ ก่อนดำเนินการต่อไป และให้รับความเห็นของหน่วยงานไปพิจารณาด้วย โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ และมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ประมูลเฟส 2 มิ.ย.

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีเยือนประเทศจีน ก็จะไปถามความคืบหน้า ที่ผ่านมาเวลาเอกอัครราชทูตจีนเจอตน ก็มีการติดตามเรื่องนี้ตลอดเวลา ซึ่งเรื่องนี้ได้ผ่าน ครม.แล้ว อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก็ห่วงเรื่องงบประมาณที่สุด

ซึ่งบางส่วนอย่างการเดินรถทำเป็นการลงทุนร่วมระหว่างรัฐกับเอกชน แบบ PPP โดยมีเอกชนมาลงทุน 7 หมื่นล้านบาท เพื่อลดภาระที่รัฐบาลต้องจ่าย 23 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการก่อสร้างจะเป็นไปตามที่รัฐบาลดำเนินการ

ทั้งนี้ หลังจาก ครม.อนุมัติโครงการแล้ว ร.ฟ.ท.ต้องไปทำทีโออาร์ และไปดูในเรื่องการทำแผนดำเนินการ ทั้งนี้ การเปิดประมูลโครงการนี้ จะล่าช้าที่สุดประมาณเดือนมิถุนายน อาจจะมีโอกาสเร็วกว่านี้ แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ

ถกเอกชนสานต่อแลนด์บริดจ์

ส่วนเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์นั้น อาจไม่มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าว แต่เป็นการพูดคุยกับภาคเอกชนของจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พูดคุยจนตกผลึกหมดแล้ว ปัจจุบันมีผู้สนใจลงทุนจากทั่วโลกประมาณ 6 บริษัท หลายบริษัทมีความสนใจเข้ามาลงทุน ซึ่ง “ดูไบ” ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนที่สนใจในโครงการนี้ เขาเป็นแคนดิเดตที่มีความเข้มแข็ง มีเรือเดินสมุทรกว่า 1,700 ลำ ทั้งยังมีการบริหารท่าเรือในหลายประเทศ หลังจากนี้ต้องรอดูว่าประเทศกลุ่มนักลงทุนจากที่ไหนเสนอผลประโยชน์มากที่สุด บริษัทนั้นก็จะได้ไป