
ภูมิธรรม เผยคุย ‘ผู้ช่วย รมต.จีน’ ปมคอลเซ็นเตอร์ เผยจีนขอไทยซีลชายแดน-ตัดทางลำเลียง ส่วนจะปิดชายแดนหรือไม่ขอพิจารณาก่อน ย้ำจีนไม่ได้กดดัน ผุดประชุม 3 ฝ่ายไทย-จีน-เมียนมา
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง และสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงว่า ทางการจีนมาประชุมกับกระทรวงกลาโหม ในระดับปฏิบัติงาน โดยพูดคุยกับ พล.อ.ธาราพงศ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เป็นหัวหน้าคณะเจรจา ซึ่งได้คุยเรื่องงานที่จะต้องร่วมมือกัน
แต่ตนเองยังไม่ได้รับรายงานหลังการพูดคุย ทั้งนี้ทางจีนมาเยี่ยมอย่างไม่เป็นทางการ โดยนำความปรารถนาดีของรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงจีน มาให้ ซึ่งเราและอีกหลายคนได้พูดคุยกันมาต่อเนื่องเป็นเดือนแล้ว ในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นปัญหา โดยจีนก็มีข้อมูลหลายส่วนเครือข่ายบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพราะจีนเป็นประเทศได้รับความเสียหายมาก
นายภูมิธรรม ยอมรับว่า เขาก็มาคุยเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้ได้รับความเสียหายกับทุกประเทศ รวมถึงไทยก็เสียหาย โดยหนึ่งปีมีผู้เป็นเหยื่อ 557,500 ราย สูญเสียเงินกว่า 68,000 ล้านบาท หากคิดเป็นรายวันตกวันละ 80 ล้านบาท ฉะนั้นต้องจัดการ ซึ่งการซีล ไม่ใช่แค่เรื่องยาเสพติด แต่รวมไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมและการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดน
นอกจากนี้ จีนอยากให้ไทยช่วยตัดเส้นทางลำเลียง เพื่อช่วยสกัดกั้นทุกทาง ส่วนจะถึงขั้นปิดชายแดนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณา แต่ได้บอกไปแล้วว่า ในการตัดสินใจเรื่องนี้ต้องเป็นความเห็นร่วมกันในฐานะที่มีปัญหาร่วมกัน ต้องเคารพอธิปไตยของประเทศไทยด้วย ซึ่งจีนก็ตอบรับ ขณะเดียวกันยังมีแนวคิดจัดการประชุมก่อน ระหว่างไทย จีนและเมียนมาร์ มาพูดคุยกัน
ส่วนจะต้องมีสำนักงานหรือไม่ อยู่ที่ปัญหาและความเห็นร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งนี้ปัญหายังลามไปถึงลาวและกัมพูชา
ส่วนเรื่องการตัดน้ำตัดไฟตัดโทรศัพท์นั้น สิ่งเหล่านี้ต้องดำเนินการ เพราะดูจากกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆสามารถจัดการได้อยู่แล้ว
ส่วนที่หลายคนมองว่าทำไปแล้วจะมีปัญหากับภาคธุรกิจ ที่ได้รับสัมปทานหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้ากระทบกับความมั่นคงภายใน สามารถจัดการได้ อย่างที่ได้ย้ำว่า 500,000 กว่าราย กับ 68,000 ล้านบาท มันเสียหายอยู่แล้ว และวันนี้นายกรัฐมนตรี มอบให้ดูแลด่วน
เมื่อถามว่า จีนเสนอความช่วยเหลือเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ชั้นต้นตกลงกันว่าไทยควรจะร่วมมือกัน เพราะไม่สามารถให้ประเทศใดประเทศหนึ่งจัดการได้ โดยเราจะต้องทำหลายที่ไม่ใช่เฉพาะแค่ จ.ตาก ยังมีจังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงราย กาญจนบุรี ฉะนั้นมาตรการนี้จะเริ่มจากจุดต่างๆไป
พร้อมยืนยันว่า การมาครั้งนี้ไม่ใช่การกดดันประเทศไทย เพราะสิ่งที่ทำมาอยู่ในนั้น ทำมาอยู่แล้วและการที่เขาเสนอมาก็ตรงกับที่เราเห็น ไม่ใช่อยู่ๆเราประเทศแล้วมีคนมาว่าเรา ก็ยืนยันกับเขาแล้วว่า ทั้งหมดมีปัญหาร่วมกัน จะแก้ปัญหาร่วมกันแต่ต้องเคารพอธิปไตยของแต่ละประเทศ เขาก็บอกว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องมากดดันอะไรเคารพในอำนาจอธิปไตย