
ฝ่ายความมั่นคงยังไม่สรุปหลังตัดไฟเมียนมา บอกวันแรกชเวก๊กโกลดเหลือ 40% รับกระทบเศรษฐกิจบ้าง-มองเขาไปซื้อไฟลาวเป็นสิทธิ แต่แสดงว่ามีปัญหา
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปตรวจราชการที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามการปฎิบัติงานสกัดลักลอบลำเลียงยาเสพติดและแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ภายหลังตัดไฟ ว่ายังสรุปไม่ได้ แต่ดูแล้วชายแดนไทยไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนสิ่งที่จะกระทบกับชายแดนมากน้อยแค่ไหนต้องประเมิน ซึ่งเรื่องความเสียหายทางเศรษฐกิจอาจจะเกิดขึ้นบ้าง แต่เราก็ได้ประเมินแล้วถึงได้ตัดไฟ เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่กว่า แล้วมันกระทบต่อคนทั้งประเทศ
นายภูมิธรรมย้ำว่าวันแรกที่ตัดไปอาจไม่เห็นอะไร แต่ที่ชเวก๊กโกก็ลดลงไปเหลือ 40% แต่อย่าเพิ่งสรุปการประเมินตอนนี้ ซึ่งจะประเมินตลอดเพื่อจะได้เห็นจริง และหลังจากนี้ไปต้องดูว่าคดีคอลเซ็นเตอร์ลดลงหรือไม่ กระบวนการมีปัญหามากหรือไม่
คนส่วนการซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาว นายภูมิธรรมระบุว่า เป็นสิทธิของเขาเหมือนกับเป็นอธิปไตยในประเทศเขา
“เพราะลาวก็คุยกับผมมาครั้งหนึ่งว่า ต้องช่วยกันแก้ปัญหา แต่ตอนนี้เขาอุดตรงนั้น ตรงนี้เขาก็พร้อมซีลชายแดนด้านเขาเหมือนกัน เพื่อแก้ปัญหา แต่เรายังไม่คุยไปถึงว่าวันนี้เราต้องทำอะไร การที่เขาต้องวิ่งไปหาฝ่ายที่อื่น แสดงว่าเขามีปัญหา” รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงระบุ
นายภูมิธรรมระบุอีกว่า ส่วนกระบวนการลักลอบตอนนี้ก็เป็นไปได้ แต่มีช่องทางไหนที่มีปัญหาเราจะอุดให้มีประสิทธิภาพที่สุด เมื่อเช้าได้มีข่าวอินเทอร์เน็ตตัดไม่ได้ ต้องไปดูว่าจริงหรือไม่
“ผมตัดไฟครั้งนี้ก็รู้อยู่ว่าเศรษฐกิจกระทบบ้าง แต่ก็ต้องเลือกเอา ตอนที่เราจะทำเราไม่ใช้อารมณ์ตัด เราใช้ว่ามีผลกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ ไทย-เมียนมา ไทย-จีน เราคำนึงถึงความสัมพันธ์ด้านมนุษยธรรม อย่าง กฟภ.บอกว่าหายไป 600 ล้าน ก็แค่ 0.1% อยากให้มองให้รอบด้านว่าเราพยายามแก้ไขปัญหา ต้องให้ความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาด้วย ไม่งั้นจะทำให้ยากลำบากมากขึ้น”
เมื่อถามว่าต้องใช้กรอบเวลาเท่าไหร่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า การประกาศกรอบเวลาก็ทำได้ แต่เวลานี้เราตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้น ขณะนี้เราทำไปแล้วก็ดูไปด้วย ประเมินไปด้วย อย่าขอกรอบเวลามาก เพราะเราทำแล้วทำต่อถ้าไม่ดีที่สุด