
การเลือกตั้งนายก อบจ.ที่เพิ่งผ่านไป ทำให้เกิดกระแสถกเถียงเรื่อง นายทักษิณ ชินวัตร ว่าเสื่อมมนต์ขลังไปแล้วหรือไม่
เพราะขึ้นเวทีช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อไทยหาเสียงหลายจังหวัด แทนที่จะชนะรวดทุกสนาม
กลับกลายเป็นว่า มีทั้งแพ้และชนะ
ตัวพรรคเพื่อไทยเองนั้น แฮปปี้ไปแล้ว เพราะได้เก้าอี้นายก อบจ.ไป 10 ที่นั่ง ถือว่ามากที่สุด รองลงมาคือพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ 9 ที่นั่งก็ตาม
แต่ก็ไม่วาย มีคนตั้งประเด็นว่า ถึงแม้พรรคเพื่อไทยจะได้ที่นั่งมากแล้ว แต่ยังน้อยไป ควรได้มากกว่านี้
เพราะนายทักษิณอุตส่าห์มาขึ้นเวทีหาเสียงให้ มันต้องชนะทุกสนามสิถึงจะถูก
เรื่องนี้ก็ว่ากันไป แล้วแต่ว่าจะตั้งสมมุติฐานเกี่ยวกับมนต์ขลังที่ว่ากันยังไง
ถ้าตั้งสมมุติฐานว่า ทักษิณไปไหนต้องชนะสถานเดียว โผล่หน้าเวทีไหน หรือเดินผ่านเวทีไหน ต้องชนะเลือกตั้งสถานเดียว
ไม่งั้นถือว่าไม่แน่จริง เสื่อมมนต์ขลังไปแล้ว
ถ้าจะยึดถือกันแนวนี้ คงตอบไม่ยากว่า มนต์ขลังไม่เต็มร้อยเสียแล้ว
แต่ถ้าเข้าใจเรื่องของการเลือกตั้ง มองการเมืองตามความเป็นจริง ก็ต้องรู้ว่ามนต์ขลังดังกล่าว เป็นเรื่องพูดกันไปให้สนุกสนาน
จะมีหรือในโลกนี้ ใครสักคนตัวเป็น ๆ สามารถดลบันดาลให้เกิดชัยชนะในการเลือกตั้งได้
เพียงแค่ไปปรากฏตัว แล้วจะทำให้ผู้สมัครที่ตนเองสนับสนุนอยู่ ชนะการเลือกตั้งได้
ตัวเองยังไม่มีสิทธิลงเลือกตั้งเลย จะไปดลบันดาลให้คนอื่นชนะได้ยังไง
จึงเป็นวาทกรรมที่พูดกันไป เหมือนจะยกย่อง แต่เมื่อไม่เป็นไปตามที่ยกย่อง ก็วิพากษ์วิจารณ์ว่า เสื่อมเสียแล้ว
เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ และจะเกิดต่อไปเรื่อย ๆ ในการเมืองไทย
จากการเลือกตั้งเมื่อ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ต้องถือว่า นายทักษิณช่วยพรรคเพื่อไทยได้มาก เลยทีเดียว
บางจังหวัดอย่างเชียงใหม่ ที่เฉือนกันไม่กี่แต้ม ต้องถือว่า มีส่วนดลบันดาลได้ไม่น้อย
อีกคนที่ควรจะขอบคุณอดีตนายกฯทักษิณให้มาก ๆ คือ กกต. ผู้จัดการเลือกตั้ง
เพราะนายทักษิณทำให้การเลือกตั้ง อบจ. มีความน่าสนใจมากขึ้น เวทีปราศรัยต่าง ๆ ถ้ามีข่าวว่า นายทักษิณจะมาขึ้นเวที ก็จะมีประชาชนหลั่งไหลไปฟังกันมากมาย
กกต.แถลงว่า ตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งรอบนี้ อยู่ที่ 58-59% ซึ่งถือว่าน้อย
แต่ถ้าไม่มีนายทักษิณมาขึ้นเวที ไม่แน่เหมือนกันว่า ตัวเลขน่าจะน้อยกว่านี้หรือไม่
เรียกว่าทำให้ผลงานของ กกต. ดูดีมากขึ้น
พอเสร็จจากเลือกตั้งนายก อบจ. ยังไม่ทันประกาศผล นายทักษิณขออนุญาตศาล เดินทางไปมาเลเซีย ระหว่าง 2-3 ก.พ. เพื่อทำหน้าที่ที่ปรึกษาของนายกฯมาเลเซีย ซึ่งรับหน้าที่ประธานอาเซียน ก่อนจะกลับมารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 5 ก.พ.
ก่อนนายทักษิณจะเดินทางไปมาเลเซีย ก็มีผู้รู้ทางการเมือง ออกมาพูดว่า ไปรอบนี้ ทักษิณไม่กลับแน่นอน แต่จะถือโอกาสหนีคดี
แต่สุดท้ายนายทักษิณก็กลับมา ไม่ได้หลบหนีไปไหน ดังที่มีการวิเคราะห์กันไป
ยังดีที่ไม่มีใครออกมาบอกว่า ที่ไม่หนีเพราะเสื่อมมนต์เสียแล้ว
จากผลการเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลังจากนี้ นายทักษิณจะมีบทบาทมากขึ้น
ทั้งบทบาทในการช่วยเหลือรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออื่น ๆ ก็ตาม
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะนายทักษิณเป็นผู้มีประสบการณ์หลากหลายด้าน
โดยเฉพาะในเรื่องการเมืองไทย ขนาดหายไป 17 ปีแล้วกลับมา อายุจะ 76 ปีแล้ว ยังพูดจาแสดงความคิดเห็นได้อย่างน่าสนใจ
คนที่ไม่ชอบนายทักษิณ เคยไปร่วมม็อบชัตดาวน์ ม็อบโน่นนี่ เพื่อขับไล่ทักษิณ อยากจะเห็นอดีตนายกฯคนนี้ หายไปจากการเมืองไทย คงต้องหงุดหงิดกันพอสมควร
มากหรือน้อย แล้วแต่ดีกรีความไม่ชอบ
ที่แน่ ๆ เลือกตั้งใหญ่รอบหน้า หลังจากสภาอยู่ครบ 4 ปี ในเดือน พ.ค. 2570 ก็คงจะมีชื่อนายทักษิณ ช่วยหาเสียงอีก
แฟนคลับทักษิณคงติดตามไปส่งเสียงชื่นชม ปรบมือยินดี ขณะที่กองแช่ง คงส่งเสียงโห่ฮา หรือส่งข้อความด่าอยู่ตามกลุ่มไลน์ต่าง ๆ
ประเด็นเรื่อง “มนต์ขลัง” คงจะไม่จางหายไปจากการเมืองง่าย ๆ
การเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า คงมีคนหยิบยกขึ้นมา และอภิปรายถกเถียงกันอีก