
แพทองธารเยือนจีนถกประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ย้ำสัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์ 50 ปี ไทย-จีน แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปกป้องประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ชู Entertainment Complex และ Land Bridge โอกาสใหม่การลงทุน แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม Soft Power ลงนาม MOU 14 ฉบับ ร่วมมือปฏิรูปอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี-นวัตกรรม AI จับมือบีโอไอเคาะประตู Xiaomi ลงทุน EV ดึง Hisense ลงทุนชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า ยืนยันระบบคัดกรองทุเรียนไทยไปจีนได้มาตรฐานปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานการเดือนทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรี อาทิ นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกฯและ รมว.คลัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่มหาศาลาประชาชน สาธารณรัฐประชาชนจีน น.ส.แพทองธาร เข้าเยี่ยมคารวะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าว “สวัสดีปีใหม่จีน” และยินดีที่ได้มาเยือนจีนในปี 2568 ซึ่งเป็นปีที่พิเศษครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีน
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 50 ปี ไทย-จีน มีหลักการและวิสัยทัศน์ความร่วมมือในการแบ่งปันความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งจีนยังสนับสนุนไทย ทั้งพัฒนารถไฟความเร็วสูง เศรษฐกิจดิจิทัล เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC
ชูโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ
ด้านนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความคืบหน้าในความร่วมมือ ด้านความเชื่อมโยงระหว่างไทย-จีน โดยรัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติดำเนินการโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย และโครงการ Entertainment Complex รวมทั้ง Land Bridge จะเป็นโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ
รับปากสกัดกั้นอาชญากรรม
“ด้านความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยวที่มาไทย เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุด พร้อมร่วมมือกับจีนในการสกัดกั้นกระบวนการอาชญากรรมที่เดินทางผ่านประเทศไทยและจะเตือนภัย ผ่านกลไกความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ เป็นที่น่ายินดีที่ทั้งสองฝ่าย รวมถึงประเทศที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค ได้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center อย่างจริงจังแล้วในปัจจุบัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
สี จิ้นผิง ชมไทย
ขณะที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนสนับสนุนอย่างเข้มแข็งในการปราบปรามขบวนการหลอกหลวง (Online Scam) การลักพาตัว การค้ามนุษย์ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนผลประโยชน์ของประชาชนจีน เป้าหมายหลักของทั้งสองประเทศ คือ การปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมาย
โดยอาชญากรรมข้ามชาติถือเป็นความท้าทาย มีความเสี่ยงสูง และชื่นชมรัฐบาลไทยที่พยายามอย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการตัดน้ำ ไฟ อินเทอร์เน็ตและน้ำมัน ที่จะสามารถตัดวงจรกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรมต่าง ๆ ได้
จากนั้น น.ส.แพทองธาร พบหารือกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารกล่าวตอนหนึ่งว่า จีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยต่อเนื่อง 12 ปี และเป็นนักลงทุนลำดับต้นของไทย มีมูลค่าการค้าในปี 2567 รวม 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จีนลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นเกือบ 1.2 หมื่นล้านบาทในช่วง 9 เดือน รวมทั้งการยกเว้นวีซ่าระหว่างกัน
ทุเรียนไทยไปจีนมาตรฐานสูง
ผลการหารือระหว่าง 2 นายกรัฐมนตรี ไทย-จีนพร้อมเดินหน้าความร่วมมือ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ อาทิ การร่วมมือกันปฏิรูปอุตสาหกรรมการเกษตร และส่งเสริมความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน โดยไทยมีนโยบายสร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของจีน จึงเชื่อว่าจะนำไปสู่การเจริญเติบโตร่วมกันของทั้งสองประเทศและภูมิภาคนี้
นอกจากนั้นเห็นว่าควรใช้ประโยชน์จาก FTA ทั้ง RCEP และ ASEAN-China FTA ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจายกระดับความตกลงให้ทันสมัย และหวังว่าจะสามารถลงนามได้ภายในปีนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน ทั้งนี้ ไทยให้ความสำคัญกับมาตรการกำกับดูแลมาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ทั้งสินค้าทุเรียนและน้ำเชื่อม มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคชาวจีนจะได้รับสินค้าไทยที่มีคุณภาพสูง
ส่วนความร่วมมือเพื่อประชาชนมีความพร้อมรับกับอนาคต ไทยและจีนเห็นพ้องว่า จะเร่งส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งไทยพร้อมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม Soft Power กับจีน
ลงนาม MOU ร่วมมือ AI
นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร และนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงระหว่างหน่วยงานไทย-จีน จำนวน 14 ฉบับ อาทิ 1.ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ 2.การแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ
3.การส่งเสริมความร่วมมือในการลงทุนด้านการพัฒนาสีเขียว 4.การส่งเสริมด้านการลงทุนในสาขาเศรษฐกิจดิจิทัล 5.ความร่วมมือระบบเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว สำหรับการค้าข้ามแดน 6.ความร่วมมือด้านการส่งเสริมการจัดตั้งห้องปฏิบัติการร่วมด้านปัญญาประดิษฐ์ 7.แลกเปลี่ยนข่าวและข้อมูลข่าวสารระหว่างกรมประชาสัมพันธ์กับสำนักข่าวซินหัว เป็นต้น
ชวน Xiaomi ลงทุน EV
ด้านการหารือกับเอกชนรายใหญ่ของจีน น.ส.แพทองธาร พบหารือกับ Mr. JIA Shaoqian, Chairman, Hisense Group ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ ดึงดูดการลงทุนและผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่อุปทานโลก
จึงหวังว่าบริษัทจะพิจารณาใช้ชิ้นส่วนในประเทศควบคู่ไปกับการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย โดยบีโอไอพร้อมที่จะสนับสนุนบริษัทผ่านกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ เชื่อมโยงผู้ประกอบการกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศที่มีศักยภาพ
ต่อมา น.ส.แพทองธาร พบหารือกับ Mr. Alain Lam, CFO และ Vice President, Xiaomi Corporation ในเวทีนี้ เลขาธิการบีโอไอระบุว่า ไทยมีอัตราการใช้รถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในอาเซียน มีระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง รวมทั้งนโยบายรัฐบาลที่เอื้ออำนวย จึงหวังว่าบริษัทจะพิจารณาจัดตั้งโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศทีประเทศไทย รวมถึงกิจกรรม R&D ที่มุ่งพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญ เพื่อสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนในประเทศไทย
จากนั้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังนครฮาร์บิน โอกาสนี้ นายสี จิ้นผิง (H.E. Xi Jinping) ประธานาธิบดี และนางเผิง ลี่หยวน (Mrs. Peng Liyuan) ภริยา จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อต้อนรับประมุขและหัวหน้ารัฐบาลต่างประเทศและคู่สมรส ที่เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 และจะร่วมชมและเชียร์การแข่งขัน Ice Hockey ชาย ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติจีน แล้วเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568