
พิชัยพร้อมหนุนปลดล็อกเวลา-วันสำคัญทางศาสนา ขายแอลกอฮอล์ กระตุ้นเศรษฐกิจ หากนักดื่มอยู่ในกฎเกณฑ์ ปัดตอบ ‘เอ็นฯคอมเพล็กซ์’ ต้องทำประชามติอีกไหม แต่สำรวจความเห็นประชาชนแล้ว
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาหามาตรการในการแก้ไขปัญหา เรื่องการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระหว่างเวลา 14.00-17.00 น. และการห้ามจำหน่ายในวันสำคัญทางพุทธศาสนา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เชื่อว่าคณะทำงานคงมีการพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว
ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเรื่องของการดื่มแอลกอฮอล์เป็นพฤติกรรมส่วนตัว แต่การที่ดื่มเป็นจำนวนมากเกินไปก็เป็นเรื่องที่ไม่ดี โดยเฉพาะคนไทย แต่หากดื่มแล้วอยู่ในกฎเกณฑ์ก็คิดว่าน่าจะสามารถดำเนินการได้ ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลัง หากดูในภาพรวมแล้ว อีกทั้งยังเป็นนโยบายที่มีผลได้มากกว่าเสีย ผลข้างเคียงไม่มี ก็พร้อมสนับสนุน
นายพิชัยยังปฏิเสธว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันดังกล่าว ไม่มีรัฐมนตรีแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เนื่องจากมีวาระพิจารณาหลายเรื่อง จึงไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด
ส่วนนโยบายการทำสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากสังคมให้ความสนใจในเรื่องนี้ นายพิชัยระบุว่าเรื่องนี้สามารถมองได้ 2 มุม โดยในประเทศที่ได้ทำสถานบันเทิงครบวงจรแล้ว หากควบคุมได้ไม่ดี และไม่ทำให้ตรงตามเป้าหมาย ก็อาจจะไม่ดี แต่หากมีการกำกับที่ดี ทำเพื่อเป็น “เอ็นเตอร์เทนเมนต์” จริง ๆ
เนื่องจากคนสมัยใหม่ยกครอบครัวไปเที่ยว โดยมองจากพฤติกรรมในหลาย ๆ ประเทศที่ได้ทำ เช่น 1 ครอบครัวไป “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” 7-8 คน แต่จะมีเพียง 1 คน ที่เข้าไปเล่นกาสิโน และอีกอย่างเดี๋ยวนี้คนเบื่อที่จะเข้าไปเล่นกาสิโนแล้ว
เมื่อถามว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ก็มุ่งไปที่การมีกาสิโน ซึ่งเป็นจุดหลักที่จะดึงเม็ดเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น นายพิชัยระบุว่าไม่หรอก คิดว่าอย่างมากเป็นแค่ส่วนประกอบ ซึ่งเดี๋ยวนี้คิดว่าเป็นสถานที่พักผ่อน, ร้านอาหาร และขายสินค้า เป็นต้น จากนั้นก็ออกไปท่องเที่ยวภายนอก เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่ต้องการมาเที่ยวเพียงสถานที่เดียว
ส่วนมองว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ เพราะเพิ่งเริ่มต้นก็มีคนคัดค้านแล้ว นายพิชัยกล่าวว่าเป็นทุกโครงการที่มีทั้งคนสนับสนุน และคัดค้าน และตนเข้าใจว่า จากการที่ไปสำรวจก็พบว่ามีผู้สนับสนุนมากกว่า
ส่วนฝ่ายค้านอย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แนะนำรัฐบาลให้นำร่องโครงการก่อนเพียง 1 สถานที่ ยังไม่ต้องดำเนินการถึง 4 สถานที่นั้น นายพิชัยอุทานพร้อมบอกว่า “อ๋อ เหรอครับ ก็คงรับไว้พิจารณา เพราะผู้ดำเนินการโครงการก็ต้องมีการพิจารณาแล้วว่าจะให้สถานบันเทิงครบวงจรเกิดขึ้นที่ไหนบ้าง”
เมื่อถามว่า เพื่อป้องกันข้อครหาจะต้องมีการทำประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนหรือไม่ นายพิชัยระบุว่าได้มีการสำรวจความเห็นของประชาชนแล้ว แต่ในส่วนของการทำประชามติตนไม่แน่ใจว่าเรื่องประมาณนี้จะต้องทำประชามติหรือไม่