สภาถกรัฐธรรมนูญ ล่ม เพื่อไทย ขอนับองค์ประชุม มี สส. 175 คน จากลงชื่อ 168 คน

ถก รัฐธรรมนูญ วันที่ 2 ยังไม่คืบ วุ่นวายแต่เช้า “หมอชลน่าน” ขอนับองค์ประชุม ทั้งที่เข้าวาระแล้ว ขณะที่ “สว.นันทนา” ให้นับด้วยการขานชื่อ ทำ ”วันนอร์” วีน หากไม่หยุดจะให้ จนท.มาเอาออกไป จน ”ปกรณ์วุฒิ” ขอให้พักการประชุมก่อน

ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1) ของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และคณะเป็นผู้เสนอ และร่างของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ เป็นผู้เสนอ ต่อจากเมื่อวันที่ 13 ก.พ. เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ทำให้ไม่สามารถพิจารณาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันมูหะมัดนอร์ได้แจ้งก่อนเข้าวาระว่าได้มีการกำหนดเวลาพิจารณาทั้งหมด 19 ชั่วโมง โดยวิปแต่ละฝ่ายได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว จึงอนุญาตให้นายพริษฐ์อภิปรายในฐานะผู้เสนอญัตติ ซึ่งนายพริษฐ์กำลังเริ่มอภิปราย แต่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นขอหารือ แต่ยังไม่ทันพูด นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ก็ประท้วงประธานรัฐ ในการควบคุมการประชุมเช่นกัน เพราะขณะนี้นายพริษฐ์ได้เข้าสู่ระเบียบวาระแล้ว ถ้าสมาชิกหารือควรจะรอให้นายพริษฐ์เสนอญัตติให้จบก่อน

นายวันมูหะมัดนอร์ชี้แจงกับ นพ.ชลน่านว่า เข้าระเบียบวาระแล้ว ดังนั้นหลังจากนายพริษฐ์อภิปรายจบ เดี๋ยวจะให้พูด แต่ไม่ใช่หารือเรื่องอื่น หากหารือเรื่องอื่น รัฐธรรมนูญจะตก ตนจึงไม่อนุญาต

แต่ นพ.ชลน่านขอใช้สิทธิประท้วงการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา และเพื่อนสมาชิกรัฐสภา ว่าตนไม่เชื่อในข้อบังคับที่ประธานจะเข้าสู่ระเบียบวาระในขณะที่ เพราะตนเชื่อว่าองค์ประชุมที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระได้

ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ตัดบท พร้อมกล่าวว่า ตามข้อบังคับระบุว่าหากสมาชิกมาลงชื่อครบองค์ประชุมแล้วก็ต้องดำเนินการประชุมไป ซึ่งขณะนี้มาร่วมลงชื่อเกินองค์ประชุมแล้ว ตนก็เปิดประชุม ไม่ทราบว่าผิดข้อบังคับข้อใด

ADVERTISMENT

นพ.ชลน่านจึงแจ้งว่า เป็นไปตามข้อบังคับอย่างนั้นจริง ๆ แต่เมื่อเปิดประชุมได้แล้วการจะพิจารณาเรื่องใด ๆ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญ องค์ประชุมที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้ต้องครบด้วย เพราะฉะนั้นตนขอประท้วงและให้ประธานวินิจฉัย

แต่นายวันมูหะมัดนอร์ชี้แจงสวนขึ้นว่า สมัยนายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา เคยมีการเสนอเรื่องอย่างนี้แล้ว ซึ่งประธานได้วินิจฉัยว่าเมื่อองค์ประชุมครบก็เปิดประชุมได้ แต่ถ้าดำเนินการประชุมในระหว่างนั้น สมาชิกเห็นว่าองค์ประชุมไม่ครบ ก็ใช้สิทธินับองค์ประชุมได้ แต่หน้าที่ประธานเมื่อองค์ประชุมครบจำนวน ก็ต้องเปิดประชุมตามระเบียบวาระ และถ้านายพริษฐ์เสนอไปจะจบหรือไม่จบ ท่านสามารถใช้สิทธิ แต่ถ้าท่านไม่ใช้สิทธินับองค์ประชุม ตนถือว่าตนดำเนินการตามข้อบังคับแล้ว ยืนยันว่าตนทำหน้าที่ตามข้อบังคับ

ADVERTISMENT

แต่ นพ.ชลน่านไม่ยอม พร้อมกล่าวว่าถ้าตนไม่อย่างนี้ก็ไม่มีโอกาสได้พูดเลย ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ เพราะฉะนั้นตนขอเสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุม ก่อนที่ผู้เสนอจะอภิปรายตามระเบียบวาระ โดยอ้างว่าข้อบังคับไม่ได้บัญญัติว่าต้องตรวจสอบองค์ประชุมเมื่อใด จึงสามารถเสนอให้นับองค์ประชุมได้

นายวันมูหะมัดนอร์จึงแจ้งว่า นพ.ชลน่านเสนอให้นับองค์ประชุม และมีผู้รับรองถูกต้อง ทำให้นายปกรณ์วุฒิประท้วงว่า ประท้วงให้ควบคุมการประชุม เพราะประธานได้วินิจฉัยไปแล้วว่า นายพริษฐ์เข้าสู่ญัตติไปแล้ว แต่ นพ.ชลน่านใช้สิทธิประท้วง ทั้งที่ประธานได้วินิจฉัยไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ นพ.ชลน่านพูด ชัดเจนว่าจงใจที่จะทำผิดข้อบังคับ เพื่อที่จะเสนอญัตติแทรกเข้ามา จึงขอให้ประธานวินิจฉัยว่าได้เข้าสู่ญัตติไปแล้ว ไม่มีสมาชิกมีสิทธิที่จะเสนอญัตติใด ๆ แทรก แต่ นพ.ชลน่านยืนยันสิ่งที่ตนเสนอถูกต้องตามที่ประธานวินิจฉัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความวุ่นวาย เพราะนายพริษฐ์ได้พยายามอธิบายที่จะเดินหน้าแถลงเสนอญัตติ ว่าใน สส.พรรคเพื่อไทยได้ประท้วงและขอให้นับองค์ประชุมก่อนเสนอญัตติ

โดยนายวันมูหะมัดนอร์วินิจฉัยว่า แม้ว่าจะให้แถลงญัตติแล้ว แต่เมื่อมีการเสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุมสามารถทำได้ และประธานต้องดำเนินการนับองค์ประชุม โดยไม่มีเหตุผลอะไร เพราะการเสนอนับองค์ประชุมเป็นเอกสิทธิ์ พร้อมกับเรียนสมาชิกรัฐสภากดบัตรแสดงตน

“เจตนาผมเมื่อองค์ประชุมครบต้องเปิดการประชุม เป็นไปตามข้อบังคับ หากมีสมาชิกขอนับองค์ประชุมตรวจสอบองค์ประชุม ผมต้องดำเนินการ เพราะเป็นเอกสิทธิ์ ระหว่างนับองค์ประชุมต้องทำให้จบก่อนดำเนินการต่อไปได้” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว

ทั้งนี้ มีสมาชิกรัฐสภายกมือประท้วงจำนวนมาก แต่นายวันมูหะมัดนอร์ไม่อนุญาตพร้อมบอกว่า จะให้สิทธิประท้วงทุกคน แต่หลังจากที่นับองค์ประชุมแล้วเสร็จ และได้ปิดไมโครโฟนของสมาชิกรัฐสภา ก่อนอธิบายว่า ตนไม่มีเจตนาว่าจะทำให้ประชุมได้หรือไม่ แต่ประชาชนจะตัดสินเองว่าการลงมตินั้นสมควรหรือไม่ ตนไม่มีอำนาจอะไร ต้องดำเนินการไปตามข้อบังคับ ไม่เช่นนั้นภาพประท้วงจะออกไปข้างนอก ภาพของสภาจะเสีย ต้องดำเนินการตามวาระ ทั้งนี้ ผมขออธิบายถึงเหตุผลที่ต้องบรรจุวาระหลังจากที่มีการเสนอญัตติ ผมได้เสนอให้ที่ปรึกษากฎหมายของประธานสภา

ทั้งนี้ ระหว่างนั้นห้องประชุมเป็นไปอย่างวุ่นวาย มีสมาชิกรัฐสภาตะโกนประท้วงนายวันมูหะมัดนอร์ จนทำให้นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวขึ้นว่า “หากไม่อยู่ในระเบียบต้องให้เจ้าหน้าที่มาเชิญ มาว่าผมเข้าข้างฝ่ายรัฐบาลหรือ ขอให้ประธานวิปแต่ละฝ่ายดำเนินการ”

ทั้งนี้ นายพริษฐ์ขอหารือว่า การเสนอนับองค์ประชุมที่ผ่านมามีการให้หารือ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ให้สิทธิเพื่ออธิบายให้กับสมาชิกรัฐสภาที่เสนอขอนับองค์ประชุมได้รับทราบ ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ชี้แจงว่า “หากองค์ประชุมไม่ครบ ขอให้ไปแถลงกับสื่อมวลชน ผมเข้าใจคุณพริษฐ์ ถึงบรรจุ คุณไม่ต้องส่ายหัว หากผมไม่จริงใจ ก็จะไม่บรรจุ ผมให้ความสำคัญกับคุณ แต่คุณไม่ให้ความสำคัญกับประธานเลย เราจะดื้อเอาตามใจของแต่ละคนไม่ได้ ท่านคงไม่ใส่ร้ายผมว่าไม่เป็นกลาง หากไม่กลางคงไม่บรรจุวาระ”

ต่อมาเวลา 10.05 น. น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. เสนอให้นำองค์ประชุมโดยการขานชื่อ ทำให้ นพ.ชลน่านกล่าวว่า การนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ เป็นไปตามข้อบังคับ แต่ข้อบังคับข้อที่ 56 กำหนดว่าการนับองค์ด้วยการขานชื่อ ต้องให้รัฐสภาอนุมัติ หากรับญัตติดังกล่าวต้องถามให้สมาชิกรัฐสภาอนุญาตและต้องตรวจสอบองค์ประชุม

ทำให้นายปกรณ์วุฒิขอให้พักการประชุมเพื่อให้ทุกฝ่ายหารือร่วมกัน ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์จึงสั่งให้พักการประชุม 20 นาที ในเวลา 10.10 น. หลังจากที่ประชุมได้เปิดประชุมไปเพียง 30 นาที

จากนั้น 10.35 น. การประชุมร่วมรัฐสภา กลับมาประชุมอีกครั้งหลังจากที่พัก 20 นาที โดยนายพริษฐ์อภิปรายว่า ทราบถึงข้อกังวลของสมาชิกรัฐสภาในซีกรัฐบาลในการเดินหน้าแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับในวันนี้ และยืนยันว่าในฐานะตัวแทนของพรรคประชาชน เราไม่ได้มีข้อกังวลดังกล่าวและมองว่าสามารถเดินหน้าต่อไปด้วยได้ แต่เมื่อมีข้อมูลเช่นนี้ จากซีกรัฐบาลก็ได้มีการหารือกันว่าพอจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า เราจะเดินหน้าหาเรื่องนี้เกินไปและไม่เร่งนับองค์ประชุม ขอให้พักอีก 10 นาที

โดยนายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวเสนอขอให้นับองค์ประชุมโดยการเสียบบัตร แทนการขานชื่อ ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์กดออดเรียกสมาชิกเพื่อจะขอมติว่าจะตรวจสอบองค์ประชุมด้วยวิธีการขานหรือเสียบบัตร ผลปรากฏว่า มีองค์ประชุมจำนวน 175 คน ถือว่า ไม่ครบองค์ประชุม ขณะที่มียอดผู้เข้าประชุม 620 คน ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน พยายามที่จะขอให้นับใหม่ แต่ไม่เป็นผล ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์แจ้งว่าเมื่อองค์ประชุมไม่ครบขอปิดการประชุม และปิดในเวลา 10.47 น.