
อนุทินซัดคนเดียวอยากเล่นการเมืองทำประชาชนเดือดร้อน หลังถูก ‘ธนดล’ สอบปมที่ดิน เตือนระวังตรงนั้นมีที่ใครบ้าง-ท้าจัดการให้หมดทุกพื้นที่ มองกระทบที่อื่นไม่กล้าพัฒนา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ดินเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนตรวจสอบการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ระบุว่ามีการทับซ้อนกับที่ดิน ส.ป.ก. ว่าไม่มีอะไรต้องชี้แจง เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เป็นเรื่องของทางราชการกับราชการ ฉะนั้น ไปว่ากัน 3 กระทรวง (กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และกระทรวงมหาดไทย) ก็ต้องพิสูจน์กัน เพราะประชาชนทั่วไปเข้าไม่ถึงข้อมูล
เมื่อถามว่า หากมีการขุดคุ้ยการขายตั้งแต่รุ่น 1 และรุ่น 2 ถ้าหากพบว่าผิดยินดีคืนใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มันไม่ได้ยินดีที่จะคืน ผิดก็คือผิด แต่ใครผิดไม่รู้ แต่คนที่ซื้อมาครอบครองโดยสุจริต เขาก็ผิดไม่ได้ ผู้ที่ซื้อที่ดินเป็นโฉนดในประเทศไทย ถ้าเชื่อโฉนดที่ออกไม่ได้แล้วจะเชื่ออะไรได้อีก อย่างที่เค้าพูดกัน บางทีเอามาเป็นประเด็นทางการเมือง ตอนนี้ถามว่าใครเดือดร้อน ซึ่งตนไม่ได้เดือดร้อน แต่เป็นชาวบ้าน ก็ต้องดูว่าเค้าจะรับผิดชอบอย่างไร
นายอนุทินกล่าวอีกว่า ที่ดินข้อพิพาทดังกล่าวมีพื้นที่กว้าง ไม่ใช่เฉพาะที่ปากช่อง แต่รวมถึงเขาใหญ่ ไปโดนอะไรบ้างก็ต้องดูให้หมด ก็ต้องระวังนะ มีใครอยู่ตรงนั้นบ้าง ถ้าโดนก็ต้องโดน แล้วจะกล้าไหม ส่วนจะมีใครบ้างก็ต้องไปหาเอาเอง
เมื่อถามว่าทางครอบครัวจะมีการฟ้องร้องหรือไม่ที่ทำให้เสียหาย นายอนุทินย้อนถามกลับว่า แล้วจะไปฟ้องอย่างไร และจะบอกว่าครอบครัวตัวเสียหายก็ไม่ได้ เพราะครอบครัวของตนไม่ได้ตั้งใจขาย และสุดท้ายหากการออกโฉนดผิด กรมที่ดินก็ต้องเพิกถอน และต้องชดใช้มา ซึ่งครอบครัวตนไม่ได้เสียหายอะไร แต่ชาวบ้านทั่วไปเสียหาย รวมถึงคนที่ไปลงทุนอื่น ๆ เพราะครอบครัวตนไม่มีสนามกอล์ฟนี้ก็ยังมีใช้ แต่ประชาชนถ้าเขายังต้องยังชีพอยู่ตรงนั้นประชาชนเค้าก็เดือดร้อน
“ครอบครัวผมมีธุรกิจหลักเป็นของตัวเองกันอยู่แล้ว ตัวผมเองก็เลิกทำมากว่า 20 ปีแล้ว ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยเงินที่เก็บสะสมมาตั้งแต่ทำธุรกิจ แบ่งลูกแบ่งเต้าหมดแล้ว หย่า 2 ครั้ง ก็ดูแลเมียเก่าหมดแล้ว เหลือ แต่แค่ผมไม่ได้ใช้อะไรเยอะแยะ
แต่สงสารชาวบ้าน เพราะคนคนเดียวต้องการเล่นการเมือง แล้วก็ไปทำให้เกิดความเสียหาย ตรงนั้นน่ะชาวบ้านทั่วไปน่าสงสารมากกว่า เพราะไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน
ไปสั่งปิดร้านกาแฟเขา อย่างที่บอกต้องดูให้เยอะ ๆ ไอ้เส้นที่เขาขีดใครเป็นเจ้าของบ้าง ต้องทำให้หมดนะ ไม่ใช่มาถึงเวลามีเส้นปะแบบนี้“ นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่าจะเป็นในลักษณะที่ผ่านมาหรือไม่ แหย่แล้วก็เงียบไป นายอนุทินกล่าวว่าตนไม่ทราบ เพราะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน กว่าจะพิสูจน์กันแต่ละเรื่องต้องใช้เวลา 20 ถึง 30 ปี
นายอนุทินระบุอีกว่า ชาวบ้านแถวนั้นบางคนที่เห็นแก่อามิสสินจ้าง สุดท้ายก็ขายที่ไม่ได้ เพราะเห็นมีอยู่หลายแปลงเหมือนกัน พร้อมระบุว่ามันจะไม่ใช่แค่ปากช่อง เขาใหญ่ แต่จะลามไปทั่วประเทศ ต่อไปใครไปดูที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนาก็จะไม่กล้าซื้อ แล้วการพัฒนาจะเกิดได้อย่างไร