7 พรรค ยื่นญัตติด่วนถล่ม พาณิชย์-เกษตร แก้ปัญหาราคาข้าวไม่ได้ผล

7 พรรคการเมือง ยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา ถกมาตรการช่วยเหลือชาวนา หลังราคาข้าวตกต่ำ จวก รมว.พาณิชย์ไม่ตามงาน กระทรวงเกษตรฯหายเงียบ นโยบายเกษตรนำ นวัตกรรมเสริม ไม่คืบหน้า

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังเสร็จสิ้นวาระรับทราบรายงานที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ปรากฏว่า สส.พรรคต่าง ๆ พากันเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องขอให้สภาพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่เพาะปลูกข้าว อันเนื่องมาจากราคาตกต่ำ ถึง 5 ญัตติจาก 5 พรรคการเมือง

ทั้งจากพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคชาติไทยพัฒนา นอกจากนี้ ยังมีญัตติที่บรรจุอยู่ในวาระแล้วและมีเนื้อหาคล้ายกัน กับของพรรคไทยสร้างไทยและพรรคกล้าธรรม นำมาพิจารณาพร้อมกัน รวม 7 ญัตติ เพื่อส่งต่อให้รัฐบาลพิจารณาต่อโดยการอภิปรายเสนอหลักการเป็นไปด้วยความดุเดือด มีการสะท้อนถึงปัญหาของเกษตรกร และโจมตีไปที่มาตรการรองรับของกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้การบริหารของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็ซัดกันอย่างดุเดือด

โดยคนแรกที่เสนอหลักการคือ นายนพพล เหลืองทองนารา สส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า ราคาข้าวตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ปัจจัยการผลิตสูงขึ้น รวมถึงไม่มีทุนทรัพย์และไม่มีเงินชำระหนี้ ซึ่งชาวนาอยากให้รัฐบาลช่วยพยุงราคาข้าว

“คราวนี้เป็นการร้องขอครั้งแรกว่าในฤดูเพาะปลูกข้าวนาปรัง เพราะปกติแล้วพี่น้องแม้ราคาตกต่ำขนาดไหน เขาก็ไม่เคยขอร้องให้รัฐบาลช่วยเรื่องข้าวนาปรัง แต่ครั้งนี้ไม่ไหวจริง ๆ” นายนพพลกล่าว

นายนพพลกล่าวต่อว่า ตนไม่เข้าใจในเรื่องของราคาข้าวหรือมาตรการต่าง ๆ ที่จะช่วยเหลือพี่น้องชาวนา ทำไมเลยเถิดมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะสิ่งที่ตนหรือแม้แต่ผู้แทนในหลายจังหวัดของพรรคเพื่อไทย เราได้พยายามบอกกล่าวให้ท่านเห็นว่าในสถานการณ์ข้าวโลกที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมันสุ่มเสี่ยงต่อราคาที่จะเกิดขึ้นที่จะตกต่ำในอนาคต พวกเราได้บอกกันมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ตั้งแต่อินเดียประกาศส่งออกข้าว หลังจากงดส่งออกเป็นเวลา 2 ปี

ADVERTISMENT

“ไม่เข้าใจว่าเป็นองคาพยพของหน่วยงานหรือเป็นของใครกันแน่ในกระทรวงพาณิชย์ที่ไม่ยอมดูแลติดตามสถานการณ์จนเกิดเหตุการณ์ทำให้พี่น้องนั้นเดือดร้อน การตอบคำถามของผู้มีอำนาจบางท่านในกระทู้สดก็บอกว่าไม่เคยมีรัฐบาลไหนได้ช่วย ผมจะบอกว่าปกติแล้วชาวนาก็ไม่เคยร้องขอ หากราคาไม่ลดลงมามากเหมือนปัจจุบันนี้” นายนพพลกล่าว

นายนพพลกล่าวต่อว่า นับตั้งแต่ปี 2523-2553 ตนคิดว่าช่วงนี้ เป็น 20 ปีที่ทำให้พวกเราทั้งหลายได้หลงระเริงกับความที่คิดว่าประเทศไทยเป็นเจ้าของข้าวโลก พวกเราละเลยกันไปว่าข้าวนั้นเป็นสินค้าที่ไม่เหมือนสินค้าประเภทอื่น ฉะนั้น ความหลงระเริงตรงนี้จึงทำให้เราไม่มีการพัฒนาเรื่องผลผลิตต่อไร่ ตนรักเกษตรกรมาก เพราะตนเป็นผู้แทนมาได้ ก็เพราะเกษตรกรให้มาเป็น

ADVERTISMENT

ขณะที่ น.ส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์ สส.พระนครศรีอยุธยา พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เราทราบปัญหามาสักระยะแล้ว พี่น้องชาวนาก็ใช้ความอดทนมานานแล้ว ตนเชื่อเหลือเกินว่าถ้าไม่ถึงที่สุด ไม่เหลืออด พี่น้องชาวนาจะไม่ออกมาชุมนุม มาตากแดดรอคำตอบจากรัฐบาล แต่ที่ออกมาเร่งรัด เพราะจะถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว แต่ทุกวันนี้ทั้งปุ๋ยทั้งยา กลับมีราคาแพง ข้าวไม่งามก็ต้องใส่เข้าไปเพิ่มอีก

“ปีนี้รัฐบาลจะไม่มีมาตรการอะไรมาช่วยเลยหรือ ราคาข้าวดี รัฐบาลก็เฉย ราคาตกต่ำรัฐบาลก็ยังอยู่เฉยได้หรือ ต้องออกมารับมือกับปัญหานี้ได้แล้ว เพราะช้าและรอไม่ได้ ดิฉันแปลกใจมาก ทำไมรัฐบาลยังไม่ออกมาช่วยอีก เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ชาวนาคาดหวังที่จะช่วยแก้ปัญหาปากท้อง ดิฉันต้องถามกระทรวงพาณิชย์ว่ามาตรการช่วยเหลือจะพร้อมเมื่อไหร่ จะทันการหรือไม่ ซึ่งตัวดิฉันและเพื่อนสมาชิกต้องขอพูดตรง ๆ ว่าไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปตอบพี่น้องชาวนาที่กำลังรอคำตอบอยู่ เพราะในแต่ละมาตรการที่ออกมา ก็เชื่อว่าเพื่อนสมาชิกก็ไม่รู้จะตอบอะไรกับพี่น้องเกษตรกรเช่นกัน“ น.ส.พิมพฤดากล่าว

ด้านนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยบอกว่าตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เพิ่มเกษตรผลิต แต่ตอนนี้ไม่มีอะไร เพราะแค่นาปรังที่ออกมาราคายังตกขนาดนี้ และถ้านโยบายออกมาช้าเงินก็จะไม่ตกถึงมือพี่น้องประชาชน กรรมาธิการการเกษตรเคยพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ว่าให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวนาในฤดูกาลที่จะเก็บเกี่ยวนาปรัง

“ท่านเคยสัมผัสหรือไม่ว่าความหิวเป็นอย่างไร เจ้าหนี้มารออยู่หน้าประตูบ้าน ความทุกข์ยากเช่นนี้ เขาจึงต้องออกมาประท้วง เปลี่ยนเถอะ ขอให้รัฐบาลมองไปข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรที่ปลูกพืชผลผลิตอีกหลายชนิด พืชผักผลไม้ต้องเผชิญกับการผันผวนทางราคา ถ้ารัฐบาลไม่มีนโยบายในการช่วยเหลือรองรับ รัฐบาลลำบากแน่ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทำอะไรอยู่ 24 ตุลาคมที่เราไปประชุม เราเตือนแล้ว มาวันนี้เป็นการสารภาพเลย ว่ายังไม่ทำอะไรเลย เพิ่งมาประชุมอนุ นบข. ตอน 14.00 น. แล้วมันตกต่ำมาเท่าไหร่แล้ว

กว่าจะออกมาตรการมา ข้าวก็จะไปอยู่ในมือของโรงสี ในมือของพ่อค้าหมดก่อน ก็ไม่ได้ช่วยพี่น้องเกษตรกรอยู่ดี 7-8 มาตรการมันควรทำตั้งแต่ 4 เดือนที่แล้ว” นายณัฐวุฒิกล่าว

ขณะที่นายณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอหลักการโดยช่วงหนึ่งได้อ่านมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ พร้อมตั้งคำถามว่า “นี่หรือคือมาตรการตามนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี”

ฟาก นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย เปรียบเทียบว่า ประเทศญี่ปุ่นขายข้าวเป็นคำ แต่ประเทศไทยคิดเป็นกิโลกรัม ทำไมเขาทำได้ จากนั้นได้เปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง