กนช.เห็นชอบปรับแผน “ของบฯแก้ภัยแล้ง” คาดอาจใช้ 2-3 พันล้าน

ประเสริฐ จันทรรวงทอง

ประเสริฐประชุมรับมือแล้ง-น้ำท่วม เผย กนช.เห็นชอบปรับปรุงแผนเสนองบฯแก้ภัยแล้ง คาดใช้ราว 2-3 พันล้าน หลังประเมินปี 2568 มีจุดเสี่ยงภัยแล้ง 37 จังหวัด

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง แถลงหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 2/2568 ว่าเป็นการประชุมถึงมาตรการเชิงรุกอย่างต่อเนื่องในการรับมือปัญหาภัยแล้ง รวมถึงมาตรการรับมือช่วงฤดูฝนที่กำลังใกล้เข้ามา เนื่องจากระยะเวลาเหลือเพียง 2 เดือนก็เข้าสู่ช่วงฤดูฝนช่วงเดือน พ.ค.

ทั้งนี้ ที่ประชุมให้กรมชลประทานและกรมส่งเสริมจังหวัดประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกข้าวนาปรัง พร้อมส่งเสริมการเพาะปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่และแล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน และหาทางบรรเทาการแก้ไขให้เกษตรกร รวมถึงหาเครื่องมือ เช่น เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ เพื่อไว้แก้ไขให้กับประชาชน และจะมีการติดตามในการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที

นายประเสริฐกล่าวต่อว่า ที่ประชุมมอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดและมีความคุ้มค่า

สำหรับการเตรียมรับมือฤดูฝน ที่ประชุมได้เห็นชอบมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพบริหารทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อ และจะมีการติดตามการรายงานให้คณะกรรมการได้รับทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเตือนภัยให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

ADVERTISMENT

นายประเสริฐกล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบขังน้ำเพิ่มเติม 7 ลุ่มน้ำ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำน้ำเพิ่มเติมไปทำแผนในการบริหารจัดการน้ำต่อไป ซึ่งรัฐบาลได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย โดยวันนี้ได้มีการพูดถึงการถอดบทเรียนในปีที่ผ่านมา ซึ่งก็จะมีการปิดจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งเพื่อบรรเทาความเสียหายของพี่น้องประชาชนต่อไป

เมื่อถามว่าการถอดบทเรียนจะไม่เจอปัญหาเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาใช่หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ปีนี้เป็นการทำงานเชิงรุก ก็คือมีการเตือนภัยต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมาก็มีการเตือนภัยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาก็ได้มีการเตือนภัย ซึ่งปีนี้ก็จะมีการดำเนินการเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการให้ประชาชนได้เตรียมรับมือ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีว่าสามารถแจ้งประชาชนและเกษตรกรให้รับมือได้อย่างทันท่วงที

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่าได้ประเมินหรือไม่ว่าพื้นที่เสี่ยงมีพื้นที่ใดบ้าง นายประเสริฐกล่าวว่า สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งก็คือในเขตภาคอีสาน เช่น จังหวัดนครราชสีมา เพราะปริมาณน้ำลดลง ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าในปีนี้จะมีจุดเสี่ยง 37 จังหวัด ส่วนภาวะน้ำท่วมในปีนี้คาดการณ์ว่าฝนจะมาเร็ว ซึ่งจุดใดที่มีความเสี่ยงก็จะต้องรีบตั้งศูนย์ส่วนหน้าเพื่อบริหารจัดการน้ำ

เมื่อถามว่าจะมีการเสนอของบฯกลางเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับปรุงแผนเสนองบประมาณในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซึ่งยังไม่ได้มีการกำหนดตัวเลข ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับสำนักงบประมาณ คาดว่าจะใช้งบฯในการบริหารจัดการประมาณ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งก็ต้องคำนึงถึงความจำเป็นในการขอใช้งบฯกลาง มีการประเมินเป็นครั้ง ๆ ไป ตามความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น