
ภท. ยันพรรคร่วมฯ ต้องไว้วางใจนายกฯ พร้อมหนุนข้อมูลให้แจงศึกซักฟอก ชี้ไม่มีกฎนายกฯตอบได้คนเดียว หากโยงกระทรวงไหน รมต.แจงแทนได้ ส่วนเอ่ยชื่อ ‘ทักษิณ’ ได้หรือไม่ เป็นไปตามข้อบังคับ สส.มีสิทธิประท้วง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีคนเดียว ว่า การอภิปรายนายกฯ ก็ดีอย่างหนึ่ง สำหรับพวกตนในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เราก็ต้องสนับสนุน ให้ข้อมูลให้กำลังใจ ประคับประคองทุกอย่างกับนายกฯ เพราะถ้านายกฯไม่รอดคนเดียว ก็ไม่เหลือใครสักคนในรัฐบาล
เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว การเล่นการเมืองก็ไม่มี ตนเชื่อว่า ถ้านายกฯถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ท่านเดียวในครั้งนี้ อย่าไปมองว่าทุกอย่างจะไปลงที่นายกฯ เพราะนายกฯ ก็คือรัฐบาล รัฐบาลก็คือรัฐมนตรีทุกคน
เพราะฉะนั้นถ้าใครถูกพาดพิง เกี่ยวข้องไปถึงตรงไหน เพราะปฏิบัติตามนายกฯ รัฐมนตรีของแต่ละกระทรวงก็จะต้องออกมาชี้แจง เพราะนายกฯไม่มีทางทราบในรายละเอียดเชิงลึกได้ว่าที่มาที่ไปของการกระทรวงนั้นๆ เป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีทุกคนต้องให้การสนับสนุน ให้การชี้แจงในเรื่องที่ถูกพาดพิง
ส่วนเรื่องของการไว้วางใจนายกฯหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า อันนี้ก็ชัดเจนว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ก็ต้องให้ความไว้วางใจนายกฯอยู่แล้ว เพราะเราปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และนายกฯท่านเป็นผู้นำ
เมื่อถามถึงกระทรวงภายใต้สังกัดของพรรคภูมิใจไทย จะต้องติวข้อสอบให้นายกฯก่อนหรือไม่ เพื่อเตรียมรับมือการอภิปราย นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯก็คงจะตอบในภาพรวม ในเรื่องของนโยบาย แต่ถ้าลงรายละเอียด เช่นกรณีของกระทรวงแรงงาน ที่ขณะนี้มีเรื่องประกันสังคม ตรงนี้นายกฯตอบไม่ได้ ตนก็จะต้องไปกราบเรียนนายกฯว่าตรงนี้ไม่ใช่หน้าที่นายกฯ ต้องตอบ โดยรมว.แรงงานก็จะต้องมาตอบ แต่ถ้าเป็นเรื่องเขากระโดงตนก็ต้องตอบ เพราะนายกฯจะทราบได้อย่างไรว่ามีรายละเอียดอย่างไร ดังนั้นถ้าพาดพิงรัฐมนตรีที่รับผิดชอบก็ต้องมาตอบ
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ระบุว่า ถามคนที่ ชื่อแพทองธาร หากใครชื่อแพทองธาร ก็ให้ลุกขึ้นตอบ นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ถ้าเกี่ยวข้องกับใคร คนนั้นก็ตอบ ไม่มีกฎที่ไหนว่า คนนั้นจะต้องตอบได้คนเดียว
การอภิปรายในรัฐบาลที่แล้ว หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ถูกอภิปราย ก็มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยฯ ที่กำกับดูแลหน่วยงานนั้นๆ มาตอบแทนได้ ซึ่งเป็นการทำงานเป็นหมู่คณะ เป็นกลุ่มอยู่แล้ว ใครตอบก็เหมือนรัฐบาลตอบ
“ท่านอภิปรายนายกฯ ก็คือการอภิปรายการทำงานของรัฐบาล ตอบอย่างไรก็ตาม ก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในความรับผิดชอบของนายกฯ ใครจะมากำหนดกฎเกณฑ์อย่างไรก็แล้วแต่ความเข้าใจ แต่รัฐบาลก็มีความเข้าใจอย่างนี้ว่าเมื่อถึงเวลาก็ต้องตอบในส่วนที่ถูกพาดพิง” นายอนุทิน กล่าว
ส่วนที่ฝ่ายค้านใส่ชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในญัตติอภิปรายฯ แต่ถูกกระโดดขวางไม่ให้ใส่ชื่อ นายทักษิณ เข้าไปในการอภิปรายฯนั้น นายอนุทิน ถามกลับว่า ใครกระโดดขวาง ซึ่งการยื่นญัตติ ให้กับประธานสภาฯ ทุกอย่างอยู่ในญัตติฉบับนั้นแล้ว ก็ไม่มีอะไร การอภิปรายก็อภิปรายไป
หากอยู่ในข้อบังคับก็อภิปรายได้เต็มที่ ถ้าอภิปรายนอกข้อบังคับ ส.ส.ในสภา ก็มีสิทธิ์ประท้วง หรือขอให้ไม่พาดพิงบุคคลภายนอก ที่ไม่สามารถเข้ามาแก้ต่างด้วยตนเองได้ ก็ว่ากันไปเป็นเรื่องปกติ ทุกปีก็มีการออกนอกกรอบบ้าง ผู้ที่ทำหน้าที่ประธานก็ต้องควบคุมการประชุมให้อยู่ในกรอบไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามย้ำว่า ชื่อของนายทักษิณ จะอยู่ในญัตติการอภิปรายครั้งนี้ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่เห็น แต่ฝ่ายค้านได้ยื่นไปแล้ว เข้าใจว่าเขาก็ใส่ไปแล้ว ได้หรือไม่ได้ ก็อยู่ที่การอภิปราย หรือถ้าประธานสภาฯ ไปพิจารณา แต่สุดท้ายแล้วเขาอภิปราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ส่วนชื่อของใครจะเป็นองค์ประกอบในนั้น ตนว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน อย่าไปเสียเวลา ก็รีบๆอภิปราย พี่น้องประชาชนจะได้รับทราบ
นายกฯก็เตรียมตัวชี้แจง รัฐมนตรีและคณะทำงานก็เตรียมชี้แจง อันไหนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกโจมตี ก็จะได้ถือโอกาสนี้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ ซึ่งเป็นอย่างนี้ทุกปี ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่ หรือเรื่องที่น่าตกอกตกใจ ต่างคนต่างทำหน้าที่