กมธ.ปกครอง สภา ลุยสอบปล่อยต่างชาติเช่าคอนโดฯ รายวัน

กรวีร์ ปริศนานันทกุล เผย กมธ.ปกครอง เตรียมเรียก กทม.-ฝ่ายปกครอง แก้ปัญหาปล่อยเช่าคอนโดฯรายวัน ชี้ต้องเร่งแก้กฎหมาย กันทุนต่างชาติใช้ช่องโหว่มาถือครอง 49%

ที่อาคารรัฐสภา นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการนำคอนโดฯ และอาคารชุดมาปล่อยเช่ารายวัน ก่อนการประชุม กมธ. ว่าทาง กมธ.การปกครองได้รับเรื่องร้องเรียนและติดตามในประเด็นที่ประชาชนสนใจ คือเรื่องการนำห้องเช่าพวกคอนโดฯ ต่าง ๆ และอาคารชุด ไปปล่อยเช่ารายวัน ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบกับผู้ที่พักอยู่อาศัยในตึก ซึ่งจะลามไปถึงความปลอดภัยและความมั่นคงของพี่น้องประชาชนด้วย กมธ.จึงได้เชิญหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกัน

เรื่องหลัก ๆ ที่จะคุยในวันนี้คือปัญหาที่เกิดขึ้นตามที่เป็นข่าว จะมีวิธีแก้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร เพราะต่างฝ่ายก็ยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากการนำห้องเช่าคอนโดฯ มาปล่อยเป็นห้องเช่ารายวันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกระทำได้ เราก็จะติดตามว่าทาง กทม. เอง หรือฝ่ายปกครองเองที่ได้ลงไปตรวจในพื้นที่ และไปพบการกระทำผิด จะมีมาตรการในการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร

รวมไปถึงการมองไปในระยะยาวด้วยคือการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งต้องยอมรับว่า พ.ร.บ.โรงแรม หรือ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารชุดนี้ถูกเขียนนั้นมาเมื่อหลาย 10 ปีก่อนแล้ว มันก็ไม่เข้ากับยุคสมัย เราก็ต้องมาดูกันว่าหากจะเขียนให้มันเข้ากับยุคสมัยจะต้องปรับเปลี่ยนอย่างไร เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนนำห้องชุดมาสร้างรายได้ได้ แต่ต้องไม่กระทบกับชีวิตของผู้อื่น และไม่กระทบกับความปลอดภัยของสังคมในภาพรวม

วันนี้ก็จะได้มีการพูดคุยกัน รวมไปถึงประเด็นของการให้ต่างชาติมาถือครอง 49% ในทางปฏิบัตินั้นเป็นไปได้หรือไม่ หากมันไม่เป็นไปตามนั้นจะมีวิธีการแก้ไขและควบคุมนิติบุคคลของแต่ละห้องเช่าของแต่ละคอนโดฯ จะมีวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในปัจจุบันได้มีการบังคับใช้กฎหมายการถือครอง 49% แล้วมีโทษอย่างไรบ้างต่อผู้กระทำผิด นายกรวีร์กล่าวว่า มีโทษปรับ และในบางโทษก็มีโทษจำคุกด้วย ส่วนเรื่องการบังคับใช้ จริง ๆ เป็นกฎหมายแล้วมันไม่มีการหยุดพัก ก็ต้องไปติดตามว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทางฝ่ายปกครองเอง ลงไปตรวจนั้นไปเจอไปพบอะไรบ้าง และมีการดำเนินคดีทำตามกฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างไรบ้าง

ซึ่งวันนี้ก็ได้เชิญทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้ลงพื้นที่มาด้วย ก็คงได้คำตอบว่า เจอสิ่งที่ผิดปกติหรือไม่ หรือไปตรวจแล้วไม่เจอสิ่งผิดปกติเลย ก็จะมาพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาประชาชนก็เจอ สื่อก็เจอ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่จึงไม่เจอ นายกรวีร์กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องแปลก ประชาชนก็เจอ ตนส่งทีมงานลงไปดูก็เจอ แต่เมื่อถามเจ้าหน้าที่แล้วเค้าบอกไม่พบอะไร ก็เป็นเรื่องแปลกพี่น้องประชาชนเห็น มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน มีรูปถ่ายต่าง ๆ มาชัดเจน แตะเมื่อไปตรวจก็ได้คำตอบมาว่าไม่เห็น วันนี้จึงต้องมาติดตามว่าไปตรวจตรงไหน ไปจุดไหนอย่างไร ทำไมจึงไม่พบการกระทำผิด

เมื่อถามย้ำว่า จะเกี่ยวโยงถึงการได้รับผลประโยชน์บางอย่างของเจ้าหน้าที่หรือไม่ นายกรวีร์กล่าวว่า ก็คงต้องไปติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ก่อน วันนี้เรายังไม่ทราบข้อเท็จจริงจากฝั่งของเจ้าหน้าที่ ได้เพียงแต่ที่ปรากฏตามข่าว ก็ให้โอกาสทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงก่อนว่าที่ไปตรวจไม่เจอหรือเจอบางส่วน

เมื่อถามว่า ได้มีการตรวจพบทุนจีนที่มาถือครองหรือไม่ นายกรวีร์กล่าวว่า ตนได้ส่งทีมงานลงไปตรวจ ว่าเป็นจริงอย่างที่เป็นข่าวหรือไม่ ปรากฏว่าก็เจอตู้กุญแจจริง ซึ่งวันนี้คงได้คุยกันว่าเมื่อปรากฏเป็นข่าวแบบนี้ และข้อเท็จจริงที่ไปเจอเป็นอย่างนี้จริง ๆ เราจะแก้ไข ให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างไร

โดยเฉพาะเรื่องของทุนต่างชาติที่เข้ามาและลงทุน โดยใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย และมาฝ่าฝืนกฎหมายภายในประเทศ เรื่องนี้องค์กรที่ดูแลเรื่องความมั่นคงความปลอดภัยของคนในประเทศ ก็ควรที่จะดูแลและช่วยกันบังคับใช้กฎหมาย และไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจนกระทบกับพี่น้องประชาชน