ภูมิธรรมยันไร้ปมการเมือง รับคดีฮั้ว สว. “อนุทิน” ลั่น “ทักษิณ” รักกันดี

“ภูมิธรรม” ยัน กคพ.รับคดีฮั้ว สว.ทำตามหน้าที่ ไม่เอาเรื่องการเมืองมาทำร้ายกัน เชื่อไม่กระทบอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ด้าน “อนุทิน” เชื่อ ขรก.ประจำไม่กล้าทำผิด กม. สวน “โรม” พูดไปเรื่อยหลังบอกดีลลับบ้านจันทร์ฯ บอกไปพบ “ทักษิณ” กินเส้น-ไม่มีเกาเหลา ลั่นรักกันดี

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจงถึงการออกมาโพสต์ในเพซบุ๊กส่วนตัว ถึงการทำหน้าที่คณะกรรมการประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ที่รับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงิน เพราะรู้สึกอึดอัดใจหรือต้องการตอบโต้ใครว่า ตนไม่ได้ตอบโต้ใคร เพียงแต่ทำหน้าที่โดยใช้ความรู้สึกนึกคิดที่มีอยู่

และประเด็นคือ อยากบอกเรื่องนี้ยืนยันไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมืองขัดแย้งกัน เป็นเรื่องตัวบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ เกิดการกระทำและเกิดขบวนการที่สำเร็จ คือการกระทำก่อนที่จะมาเป็นสมาชิกวุฒิสภา เราจึงดูตรงนั้นเป็นเรื่องของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต้องดูเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีการฟอกเงิน และเป็นเรื่องของการร่วมมือกันทำผิดกฎหมายภูมิ

ส่วนคดีของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เราส่งคืนไป ซึ่งเริ่มต้นจากตรงนี้ทำให้เกิดความชัดเจน และก็รับฟัง เมื่อ กกต.ทำหนังสือมาถึงก็ได้แยกคดี ใช้ในสิทธิและความเกี่ยวข้องของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่สามารถทำได้ ส่วนทำแล้วคดีไปถึงไหนก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หากเกี่ยวข้องกับใครจะส่งให้ องค์กรนั้น ๆ ที่รับผิดชอบ

“เรามีหน้าที่ทำความจริงให้ปรากฏ เพราะมีคนมาร้องเรียน หากเราไม่ทำก็โดนมาตรา 157 คือละเว้นหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ จึงเป็นสิ่งที่เราต้องปฏิบัติ”

เมื่อถามว่า การรับคดีฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ จะกระทบถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีครั้งนี้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการเมืองแล้วจะกระทบได้อย่างไร อย่าคิดอะไรเป็นเรื่องการเมืองไปหมด ไม่เช่นนั้นองค์กรที่ทำหน้าที่จะทำงานยาก

ADVERTISMENT

“ผมยืนยัน โดยเฉพาะตัวผมเอง ไม่ใช้เอาการเมืองมาทำร้ายกัน ว่ากันไปตามอำนาจหน้าที่ และตามกฎหมาย” นายภูมิธรรมกล่าว

ADVERTISMENT

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวที่ถูกมองว่าเป็นการใช้หน่วยงานของรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมืองว่า ตนวิพากษ์วิจารณ์อะไรไม่ได้ เพราะมีคณะกรรมการอยู่ และการรับเป็นคดีพิเศษก็เป็นการลงมติ

เมื่อถามย้ำว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าในอนาคตหากพรรคการเมืองใด ได้คุมกระทรวงยุติธรรมก็จะมีดีเอสไอ เป็นเครื่องมือ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่หรอก เพราะข้าราชการประจำคงมีแนวทาง อะไรเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบไม่ถูกด้วยกฎหมาย ข้าราชการประจำเขาก็ไม่ปฏิบัติอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ออกมาให้สัมภาษณ์พาดพิงว่า สาเหตุที่ผลของดีเอสไอออกมาแบบนี้ มาจากดีลลับบ้านจันทร์ส่องหล้า นายอนุทินหัวเราะและส่ายหัว พร้อมกล่าวว่า ท่านก็พูดอะไรของท่านไปเรื่อย จริงบ้างไม่จริงบ้างก็แล้วแต่

เมื่อถามว่า ระหว่างนายรังสิมันต์และนายอนุทิน มีการพาดพิงกันหลายครั้ง ทำให้มีติดใจกันบ้างหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่รู้เหมือนกัน แต่เจอที่สภาก็ทักทายกันดี ไม่มีปัญหาอะไรและต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ ซึ่งข้อมูลของนายรังสิมันต์บางข้อมูลก็มีประโยชน์ แต่บางข้อมูลก็ไม่เป็นประโยชน์

เมื่อถามย้ำว่า ผลคดีของดีเอสไอออกมาเป็นแบบนี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับดีลบ้านจันทร์ส่องหล้าใช่หรือไม่ นายอนุทินส่ายหัวและตอบว่า ไม่เกี่ยวเลย ประเด็นนี้ยิ่งไม่เกี่ยวเลย จะมีดีลลับได้อย่างไร หากมีดีลลับแล้วตนจะรู้ได้อย่างไร เราทำอะไรตรงไปตรงมา เปิดเผย ไม่จำเป็นต้องไปลับอะไร และไปพบใครก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไปพบใครแล้วต้องมารายงาน แต่ถ้าใครรู้เราก็ไม่ปฏิเสธ

เมื่อถามต่อว่า วันที่พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ได้รับประทานมาม่า เหมือนเดิมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “กินเส้นเล็กแห้งลูกชิ้นปลา”

เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีเกาเหลาใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “ไม่มี ไม่มี รักกัน”

ส่วนที่นายรังสิมันต์มองรัฐบาลเหมือนเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน นายอนุทินตอบติดตลกว่า เสือตัวหนึ่งตัวผู้ เสืออีกตัวตัวเมีย ไม่มีปัญหาอะไร