
“ณัฐพงษ์” หัวหน้าพรรคประชาชนขอ “ประธานสภา” ไปทำงานตรงไปตรงมา ไม่อยากให้การซักฟอกถูกเซ็นเซอร์ ห้ามพาดพิง “ทักษิณ” ชี้ อำนาจรับผิดชอบความเสียหายหากพาดพิงคนนอกคือผู้อภิปราย ไม่ใช่ประธานสภา
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าทำหนังสือด่วนถึงตนทันในกรอบ 7 วัน ว่าประธานสภาได้เรียกตนไปหารือจริง แต่การตอบกลับนั้นต้องดูตามระเบียบของกฎหมายต่อ ว่าต้องมีการตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการหรือไม่
ในวันนั้นตนชี้แจงว่าเป็นสิทธิของพรรคฝ่ายค้านที่สามารถยื่นญัตติได้ และยืนยันว่าจะไม่มีการแก้ด้วย ทางนายวันมูหะมัดนอร์พยายามจะคืนญัตติกลับมาให้ แต่ตนปฏิเสธไป ตอนนี้ร่างญัตติน่าจะอยู่ที่นายวันมูหะมัดนอร์ ในส่วนนี้จึงเป็นที่มาที่ไปที่ต่อไปมีการออกหนังสือมาที่ตน ฉะนั้น ในเรื่องของจำนวนวันต้องลองเช็กระเบียบอีกทีว่าเป็นอย่างไร
“ยืนยันตามข้อเท็จจริงที่ทางอาจารย์วันนอร์บอกว่าเรียกผมเข้าไปหารือ ถามว่ามีไหมก็ต้องตอบว่ามี เป็นการหารือนอกรอบ จึงไม่ทราบว่าการหารือนอกรอบเป็นไปตามระเบียบหรือข้อบังคับหรือไม่ ว่าการแจ้งกลับภายใน 7 วันต้องตอบมาเป็นหนังสือหรือไม่ หากดูตามกรอบหนังสือที่ส่งมาก็เลยกรอบเวลาจริง” นายณัฐพงษ์กล่าว
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ไม่ยอมบรรจุญัตติให้ตนคิดว่าได้ชี้แจงไปหมดแล้ว ยืนยันว่าเป็นสิทธิของสมาชิกที่จะยื่นขอเปิดอภิปรายไว้วางใจ ซึ่งอำนาจของรัฐธรรมนูญไม่ได้ให้อำนาจประธานสภาในการใช้ดุลพินิจจะไม่บรรจุ หากดูตามข้อบังคับก็เขียนแค่ว่าให้ประธานสภาดูในส่วนของข้อบกพร่อง ว่ามีคำผิด มีสมาชิกเข้าชื่อไม่ครบหรือไม่ ซึ่งเรายืนยันว่าในส่วนนี้เราเขียนถูกต้อง ลงชื่อครบทั้งหมด ก็ไม่น่าจะมีข้อบกพร่องอะไร ส่วนเนื้อหาญัตติจะใส่อะไรได้ไม่ได้ ตนคิดว่าเป็นสิทธิของสมาชิกที่จะใส่ลงไปในหลักการของตัวญัตติอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ เนื่องจากทางประธานสภายืนยันให้นำชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกจากญัตติ ซึ่งทางพรรคฝ่ายค้านเองยืนยันว่าจะไม่เอาออก นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในวันนั้นมีการคุยกันในเรื่องนี้เกือบครึ่งชั่วโมง นายวันมูหะมัดนอร์เองก็กังวลว่าบรรยากาศในที่ประชุมมีการประท้วง แต่ตนยืนยันว่าการที่ใส่ชื่อนายทักษิณลงในญัตติจะทำให้เราสามารถอภิปรายอย่างตรงไปตรงมามากขึ้นไม่ต้องพูดอะไรอ้อมค้อม
แต่ก็ได้รับข้อยืนยันกลับมาว่ากลัวมีการพาดพิงคนนอก ซึ่งข้อบังคับไม่ได้ห้ามให้เราพาดพิงคนนอก แต่มีการเขียนว่าไม่ให้พาดพิงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น ซึ่งเรายืนยันว่าจำเป็น นายทักษิณเองก็เคยให้สัมภาษณ์ว่ามีส่วนในการบริหารราชการแผ่นดิน ในตัวญัตติของเราก็เป็นไปตามข้อเท็จจริงตามที่นายทักษิณพูดเองด้วยซ้ำ การรับผิดชอบคำพูดของสมาชิกในการพาดพิงคนนอกที่ทำให้เกิดความเสียหาย เป็นความรับผิดชอบของผู้อภิปราย ประธานสภาไม่เกี่ยว
“วันนั้นอาจารย์วันนอร์ก็มีการตอบกลับมาจริง เกรงว่าจะถูกฟ้องร้องในฐานะที่ประธานสภา มีอำนาจในการบรรจุญัตติ ถ้าบุคคลอื่นเสียหายเขาก็จะถูกฟ้องร้องไปด้วย ทำให้ไม่สามารถบรรจุญัตติได้” นายณัฐพงษ์กล่าว
เมื่อถามว่าเป็นเกมการเมืองล้มการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้ไม่ทันในสมัยประชุมนี้หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่าตนอยากให้นายวันมูหะมัดนอร์ดำเนินทุกอย่างไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ ทางฝ่ายค้านยืนยันว่าประธานสภามีอำนาจ ไม่มีดุลพินิจในการที่จะไม่บรรจุญัตติ เนื่องด้วยเนื้อหาในตัวญัตติเอง ที่ผ่านมาการอภิปรายไม่วางใจแทบทุกครั้งหนีไม่พ้นต้องมีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอกอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่สมาชิกทุกคนที่อภิปรายจะต้องรับผิดชอบกันเอง
“ดังนั้น สิ่งที่ท่านประธานเองในฐานะประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติควรทำ คือการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านถ่วงดุลตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล เรื่องนี้ไม่ควรที่จะต้องมาออกตัวรับแทนคุณทักษิณ ไม่เช่นนั้นประชาชนส่วนหนึ่งจะมองได้ว่าประธานสภาพยายามปกป้องฝ่ายบริหารหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนญัตติจะเข้าสู่ที่ประชุมทันสมัยนี้หรือไม่นั้น ทางพรรคฝ่ายค้านต้องยืนยันตามสิทธิว่ายังมีเวลาปรึกษาหารือกันได้อีกซักหนึ่งสัปดาห์ แต่หากท้ายที่สุดทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่สามารถอภิปรายได้ทันในสมัยประชุมนี้ ไม่มีใครต้องรับผิดชอบไปมากกว่าทางอาจารย์วันนอร์อยู่แล้ว ในฐานะที่ท่านเป็นผู้บรรจุญัตติ” นายณัฐพงษ์กล่าว
เมื่อถามว่ายืนยันที่จะไม่นำชื่อนายทักษิณออกจากญัตติใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ณ ตอนนี้เราต้องยืนยันในเรื่องของอำนาจหน้าที่ สส.ไปก่อน หากเรายอมเลยก็จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในอนาคต และตนก็ไม่อยากให้เวทีที่ฝ่ายค้านสามารถทำงานได้เต็มที่ในการซักฟอกรัฐบาลถูกเซ็นเซอร์ไปด้วยอำนาจของประมุขในฝ่ายนิติบัญญัติ ในเรื่องนี้ขอทำทีละสเต็ป อย่าคิดไปไกลว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเข้าไม่ทันสมัยประชุมนี้ ยืนยันตามหลักการว่าเราคัดค้านการวินิจฉัยของประธานสภาก่อน