
รมว.แรงงาน เผย ’อนุทิน’ จ่อเซ็นตั้งคณะกรรมการทีมสอบทุจริตใช้งบฯ ประกันสังคม ระบุสัดส่วนกรรมการส่วนใหญ่เป็นคนนอก ชี้ ‘ปลัดบุญสงค์‘ ส่อโดนสอบด้วย เหตุอดีตเลขาฯ สปส. ห่วงโหมกระแสหนักจนกระทบผู้ประกันตนคนอื่น
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้ตรวจสอบสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กรณีลงทุนซื้อตึกมูลค่า 3 พันล้านบาท ในราคา 7 พันล้านบาท ว่าหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาข้อเท็จจริง โดยต้องรอนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามเพื่อตั้งคณะกรรมการ
โดยเรื่องนี้นายอนุทินไม่ได้นิ่งเฉย คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจะออกในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ ส่วนใครจะเป็นประธานและกรรมการมีกี่คน ขอให้รออีกนิดนึง
ทั้งนี้ หลังจากมีการตั้งคณะกรรมการเสร็จแล้ว ต้องให้เวลาคณะกรรมการหาข้อเท็จจริงให้ได้ ส่วนกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบของคณะกรรมการนั้น ต้องรอดูนายอนุทินว่าจะให้กรอบเวลาเท่าไหร่ แต่ขอให้สบายใจได้ ตนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเชื่อว่านายอนุทิน ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงานก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเช่นกัน
ส่วนการที่ สส.บางคนไปให้สัมภาษณ์ขุดคุ้ย ไปหาข้อเท็จจริง เป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้าเรามั่นใจว่าเรามีความโปร่งใสจริงก็ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาขุดคุ้ย มั่นใจว่าทุกกระทรวงพร้อมที่จะให้ตรวจสอบ
เมื่อถามว่าจะเป็นการตรวจสอบการลงทุนซื้อตึกหรือโครงการทั้งหมดที่ถูกตั้งข้อสังเกต นายพิพัฒน์กล่าวว่าเราดูรายละเอียดทั้งหมดเพื่อความโปร่งใส ในส่วนนี้ตนเองไม่อยากไปโทษใคร เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างทางประกันสังคมทำด้วยความโปร่งใส ส่วนการซื้อตึกเป็นอย่างไร ตนเองยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่เชื่อว่าก่อนที่จะซื้อต้องมีการศึกษา และอย่างน้อยที่สุดจะต้องมีการนำบริษัทคนกลางเข้ามาประเมิน เพราะโดยปกติผู้ซื้อก็อยากซื้อของถูก ผู้ขายก็อยากขายของแพง
ฉะนั้น เราต้องหาบริษัทกลางมาเป็นผู้ประเมินว่าราคาสินทรัพย์ในแต่ละอย่างมีความเหมาะสมอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ คิดว่าตรงนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ประกันสังคม เพราะทุกวันนี้ทุกอย่างวิ่งมาที่ประกันสังคม เชื่อว่าทางข้าราชการอาจจะไม่สบายใจ เพราะหากมีการไปกดดันเยอะ ๆ ก็ไม่ทราบว่าผลสรุปจะเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่าในคณะกรรมการตรวจสอบจะมีบุคคลภายนอกด้วยหรือไม่ นายพิพัฒน์กล่าวว่า ส่วนใหญ่เราจะใช้คนนอก ถ้าเป็นคนในก็เป็นคนในไว้สำหรับซัพพอร์ตข้อมูลเท่านั้นเอง แต่หลักใหญ่ โดยเฉพาะประธานและกรรมการเกินกึ่งหนึ่งต้องเป็นคนนอกเพื่อความโปร่งใส
เมื่อถามอีกว่าจะมีการตั้งนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นคณะกรรมการด้วยหรือไม่ นายพิพัฒน์กล่าวว่าคงไม่ใช่ปลัดกระทรวง แต่เราต้องดูถึงเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
“ซึ่งปลัดกระทรวงแรงงาน ในช่วงที่ผ่านมาเคยเป็นอดีตเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ถูกตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เช่นกัน”
เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเงินของกองทุนประกันสังคมที่เอามาช่วยประชาชนน้อยเกินไป นายพิพัฒน์กล่าวว่า เท่าที่ทราบวันนี้ที่สำนักงานประกันสังคมจะมีการประชุมเรื่องผลตอบแทนที่มีการปรับปรุง ซึ่งเมื่อครั้งที่ผ่านมากรรมการหลายท่านยังไม่ได้รับรายละเอียดข้อชี้แจงจากฝ่ายอนุฯ จึงมีการประชุมกันที่สำนักงานประกันสังคม
ฉะนั้น ตนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ออกมาในปัจจุบันนี้อย่าคิดว่าประกันสังคมทำไม่ถูกทุกเรื่อง เชื่อว่าประกันสังคมมีกรรมการมาจากหลายฝ่าย ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง โดยเฉพาะฝ่ายภาครัฐ เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างการที่จะผ่านบอร์ดประกันสังคมออกมาน่าจะมีการพิจารณาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะก่อนที่จะเข้าบอร์ดนั้น อนุฯ ในแต่ละชุดต้องมีการนำเสนอบอร์ดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
“ฉะนั้น กระแสคือกระแส ผมกังวลว่า ถ้าสุดท้ายโหมกันเข้าไปเรื่อย ๆ ประกันสังคมก็จะเป็นจำเลยของสังคม ซึ่งถ้าเขาไม่ผิดจริง หรือไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเลย การที่เราไปกดดันเขามาก ๆ มันอาจจะทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมกับเพื่อน ๆ ในประกันสังคม” นายพิพัฒน์กล่าว