ประเสริฐ ยันพร้อมจ่ายเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต ไตรมาส 2-3

ประเสริฐ จันทรรวงทอง
ประเสริฐ จันทรรวงทอง

ประเสริฐ โต้ฝ่ายค้าน รู้ไทม์ไลน์โครงการตลอด สามารถแจกเงินหมื่นผ่านดิจิทัลวอลเลตตามกำหนด ไตรมาส 2-3

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวพาดพิงถึงโครงการดิจิทัลวอลเลตว่ากระทรวงดีอีไม่มีความพร้อม ว่าสิ่งที่พูดมาไม่ใช่ข้อเท็จจริง โดยชี้แจงการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงดีอี กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ตามการมอบหมายของนายกรัฐมนตรี

ตนในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีและเป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแล และยืนยันว่า ทราบถึงขั้นตอนต่าง ๆ ในโครงการดิจิทัลวอลเลต และ DGA มีการพัฒนาระบบตามอำนาจหน้าที่ ส่วนระบบที่พัฒนาแล้วจะนำเข้าสู่โครงการเป็นหน้าที่ของหน่วยงานในระดับกระทรวง และ DGA ทำงานในระดับองค์กรมหาชนเท่านั้น เพราะฉะนั้นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงที่จะต้องทำหน้าที่ต่อ

นายประเสริฐยังยืนยันว่า ไม่ได้มีอุปสรรคการทำงานระหว่างกัน เวลาที่บอกว่าคนที่ดีอีไม่มีประสบการณ์และไม่มีงบประมาณนั้น ยืนยันว่าไม่จริง เนื่องจากมีการเตรียมการเรื่องนี้ไว้แล้ว และในเรื่องเทคโนโลยีดิจิทัล ประสงค์ที่มีความเชี่ยวชาญ คล่องตัว และมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับมากที่สุด คือ ดีอี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง ทั้งสำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล กฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แพลตฟอร์ม สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ร้านมีหน่วยงานนายวิสาหกิจ 2 หน่วยงาน ที่ดูโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล

ส่วนเรื่องของงบประมาณ ผ่านกระทรวงเตรียมขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ในกรณีที่ต้องการใช้เงินขับเคลื่อนนโยบาย ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า น.ส.ศิริกัญญา มีวัตถุประสงค์อะไร ถึงเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง พร้อมยืนยันว่ากระทรวงดีอีพร้อมจ่ายเงินดิจิทัลไตรมาส 2 ต่อไตรมาส 3 เนื่องจากไม่มีอุปสรรคปัญหาอะไร และจากที่ประชุมบอร์ดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทุกอย่างก็เป็นไปตามไทม์ไลน์ และมีการแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน

ส่วนที่ น.ส.ศิริกัญญาออกมาพูดเช่นนี้เพื่อมุ่งการเมืองหรือไม่ นายประเสริฐยอมรับว่า คงจะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ประชาชนคอยโครงการนี้อยู่

ADVERTISMENT