
คอลัมน์ : Politics policy people forum
รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ฝ่าคลื่นลมการเมืองมาแล้วกว่า 6 เดือน
นับแต่วันที่ 11 กันยายน 2567 พร้อมประกาศ 10 นโยบายเร่งด่วนระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา
ประกอบด้วย 1.แก้หนี้-ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ 2.ปกป้อง SMEs ไทย จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากแพลตฟอร์มต่างชาติ
3.ปรับโครงสร้างราคาพลังงาน-เดินหน้า “ค่าโดยสารราคาเดียว” ตลอดสาย 4.ดึงเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นบนดิน เข้าสู่ระบบภาษี เพื่อนำไปจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค
5.เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเลต 6.ยกระดับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย ฟื้น “ครัวไทยสู่ครัวโลก”
7.ส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น สถานบันเทิงครบวงจร 8.แก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร 9.เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์/มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ
และ 10.สร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ทั้งคนพิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ บุคคลไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ให้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐได้โดยสะดวก
หลายนโยบายเร่งด่วน รัฐบาลแพทองธารเดินหน้าไปบ้างแล้วในรอบ 6 เดือน
เติมเงินดิจิทัลวอลเลต 3 เฟส
อย่างไรก็ตาม หลังจากรัฐบาลแพทองธารเข้ามาบริหารอย่างเป็นทางการ 11 กันยายน 2567 ผ่านมา 6 วัน คือ 17 กันยายน 2567 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติแจกเงินหมื่นเฟสที่ 1 ทันที โดยเติมให้ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน แต่เมื่อปิดยอดการจ่าย มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม 2567 จำนวนรวม 144,073.57 ล้านบาท
จากนั้น 19 พฤศจิกายน 2567 มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2567 ประกาศเติมเงินหมื่นเฟสที่ 2 “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้สูงอายุ” เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้สูงอายุให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวนไม่เกิน 4 ล้านคน ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบฯ กลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจจำนวนไม่เกิน 40,000 ล้านบาท จากนั้น ครม.ได้อนุมัติกดปุ่มจ่ายเงินในวันที่ 24 ธันวาคม 2567
ล่าสุด 10 มีนาคม 2568 คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 ที่ประชุมอนุมัติแจกเงิน 1 หมื่นเฟส 3 ให้แก่คนอายุตั้งแต่ 16-20 ปี และจะต้องใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ดังนั้น แม้การแจกเงิน 1 หมื่นจะเป็นเฟสที่ 3 แต่ถือว่าเป็นเฟสที่ 1 สำหรับเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเลต
“พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า ที่เรียกว่าเฟสที่ 1 เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ใช้ระบบดิจิทัลวอลเลต โดยจะจ่ายในปลายไตรมาส 2 ถึงต้นไตรมาส 3 ของปี 2568 ให้กับกลุ่มที่ลงทะเบียนไว้แล้ว มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี ซึ่งอยู่ในกลุ่มวัยเรียน เนื่องจากสามารถที่จะช่วยพ่อแม่ได้ สำหรับกลุ่มอายุ 20-60 ปี จะต้องขอไปดูกันอีกทีว่าจะต้องแบ่งอย่างไร
“โครงการดิจิทัลวอลเลตเป็นเฟส 1 มีข้อดีเยอะ ซึ่งระบบอาจจะลำบากในการสร้าง แต่ถ้าเทียบกับการให้เงินอุดหนุนอื่น ๆ ซึ่งดิจิทัลวอลเลตสามารถกำหนดการใช้จ่ายได้ ทั้งเรื่องร้านค้า พื้นที่ ทำให้การเติมเงินสู่ระบบเป็นไปตามที่เราต้องการ ทำให้เรารู้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ของคนในประเทศนี้เป็นอย่างไร นำไปวางแผนอื่น ๆ ได้อีก ถือเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล”
อนุมัติโครงการไร่ละพัน
ด้านการช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลแพทองธารมีการอนุมัติโครงการใหญ่ ๆ อาทิ เมื่อ 3 ธันวาคม 2567 ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท จำนวน 4.61 ล้านครัวเรือน วงเงิน 38,578.19 ล้านบาท
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงกระตุ้นการใช้จ่ายในระดับเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นการเพิ่มการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
คุณสู้ เราช่วย แก้หนี้
ขณะที่การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน รัฐบาลออกแคมเปญ “คุณสู้ เราช่วย” เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ครม.ได้อนุมัติโครงการที่แก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ทั้งบ้าน ทั้งรถ และหนี้ของ SMEs แบ่งเป็น 2 มาตรการ มาตรการที่ 1 “จ่ายตรง คงทรัพย์” ช่วยลูกหนี้ค้างชำระ ณ วันที่ 31 ต.ค. 67 ของ Nonbank ในสินเชื่อรถยนต์วงเงินไม่เกิน 800,000 บาท สินเชื่อรถจักรยานยนต์วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีวงเงินรวมไม่เกิน 100,000 บาท หรือไม่เกิน 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละแห่ง สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลที่มีวงเงินรวมไม่เกิน 20,000 บาท และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ที่มีวงเงินรวมไม่เกิน 50,000 บาท
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะลดภาระผ่อนชำระ 3 ปี เหลือเพียง 70% และลดดอกเบี้ยให้ 10% เช่น จากเดิม 25% เป็น 15% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 3 ปี โดยพักดอกเบี้ยส่วนที่ลดให้ และยกเว้นให้เลยหากลูกหนี้ทำตามเงื่อนไขได้
มาตรการที่ 2 “จ่าย ปิด จบ” ช่วยลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ Nonbank บุคคลธรรมดาที่เป็นหนี้เสีย แต่มียอดคงค้างหนี้ไม่เกิน 5,000 บาท โดยให้ลูกหนี้ชำระหนี้เพียงร้อยละ 10 เพื่อปิดหนี้ได้ทันที
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจัด Soft Loan สำหรับ Nonbank ของธนาคารออมสิน วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี และกำหนดให้วงเงินสินเชื่อของ Nonbank แต่ละรายขึ้นอยู่กับการสูญเสียรายได้ของ Nonbank แต่ละแห่งที่เกิดจากการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียน ข้อมูล ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ 8.2 แสนราย หรือคิดเป็นจำนวนบัญชีอยู่ที่ 9.9 แสนบัญชี ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2568 พบว่ามีผู้ลงทะเบียนอยู่ที่ 6.3 แสนราย แต่มีผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติเพียง 2.4 แสนราย คิดเป็นสัดส่วน 38% ของผู้ลงทะเบียนเท่านั้น ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงขยายระยะเวลาการสมัครเข้าโครงการถึงวันที่ 30 เมษายน 2568
บ้านเพื่อคนไทย
ส่วน “บ้านเพื่อคนไทย” อันเป็นโครงการหนึ่งเพื่อให้คนไทยมีบ้านในราคาที่เอื้อมถึง แต่อยู่ในทำเลทองติดรถไฟฟ้าจำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย พื้นที่พัฒนาย่าน กม.11 ห่างจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.5 กิโลเมตร ห่างจาก MRT พหลโยธิน 500 เมตร พื้นที่พัฒนาบนพื้นที่ธนบุรี (ศิริราช) ตั้งอยู่ตรงข้ามตลาดศาลาน้ำร้อน ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีส้ม 800 เมตร พื้นที่เชียงราก จังหวัดปทุมธานี ห่างจากสถานีรถไฟเชียงราก 4.4 กิโลเมตร และห่างจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 4.4 กิโลเมตร
พื้นที่เชียงใหม่ ติดสถานีรถไฟเชียงใหม่ ติดถนนเจริญเมือง ถนนทุ่งโฮเต็ล ห่างจากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย 2.5 กิโลเมตร ห่างจากมหาวิทยาลัยพายัพ 2.6 กิโลเมตร ห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 7.5 กิโลเมตร
แผนของรัฐบาลต้องการลดรายจ่ายคนไทยและมีเงินเก็บ เพราะจะทำคู่ขนานกับการเดินหน้ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่ง “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ยืนยันว่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนนี้
นอกจากนี้ รัฐบาลแพทองธารยังดึงการลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยุคใหม่ ทั้งดาต้า เซ็นเตอร์, คลาวด์, AI จับมือยักษ์ใหญ่อย่าง GOOGLE, AWS, Microsoft, Nvidia, Huawei, TikTok รวมถึงการเดินหน้าลงทุนใหม่ ๆ ต่อจากรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน อาทิ โครงการแลนด์บริดจ์ สนามบินอันดามัน สนามบินล้านนา Entertainment Complex
อีกทั้งเดินหน้าปราบปรามขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ จับมือร่วมกัน 3 ประเทศ ทั้ง ไทย จีน เมียนมา ตัดน้ำ ตัดไฟ อินเทอร์เน็ต ห้ามขายน้ำมันไปยังพื้นที่ที่เป็นฐานกระทำความผิดในเมียนมา