
นายกฯ ตามงาน ‘กวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า’ 2 สัปดาห์จับแล้วพันคดี ยึดของกลาง 9 แสนชิ้น มูลค่าเกือบ 120 ล้านบาท ‘จิราพร’ เผยเปิดโอกาส สส.ฝ่ายค้าน ให้ข้อมูลแหล่งซื้อขาย หลังพบสูบในสภา
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย เปิดเผยการประชุมปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ว่า กว่า 2 สัปดาห์ที่สั่งการเรื่องปราบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ตัวเลขสถิติการปราบปรามดีขึ้นและน่าพอใจ นั่นคือมีการดำเนินคดี 1,078 คดี, ผู้ต้องหา 1,104 คน, จำนวนของกลาง 900,444 ชิ้น มูลค่าของกลาง 118,953,915 บาท
แต่แน่นอนว่ายังไม่พอใจแค่นี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเดินหน้าอย่างเข้มข้นต่อไป วันนี้จึงได้มีวงประชุมกับรัฐมนตรีจิราพร ซึ่งได้มอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ร่วมกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัพเดตการทำงานและข้อจำกัดที่เจอระหว่างดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลักลอบบุหรี่ไฟฟ้าข้ามแดน การเสิร์ชหาบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างง่ายดายในโซเชียลมีเดีย เรื่องนี้ต้องเร่งจัดการทันที
นายกฯ ระบุอีกว่า สิ่งที่ฝากท่านรัฐมนตรีและตำรวจเพิ่มเติม คือ บุหรี่ไฟฟ้าบางตัวที่พัฒนาให้ใส่สารเสพติดลงไปได้ หลายคนใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์เสพยาเสพติด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเสพของเด็กและเยาวชน ฉะนั้นทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด เราเดินหน้าอย่างจริงจัง เพราะนี่คือทุกข์ใหญ่ของประชาชนจริง ๆ
ขณะที่ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังหารือกับนายกรัฐมนตรี ว่าช่วงเวลา 2 สัปดาห์ภายหลังมีข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรี ยอดคดีที่จับกุมการกระทำผิด อยู่ที่ 1,078 คดี ของกลางกว่า 900,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 118 ล้านบาท ซึ่งยอดการจับกุมในครั้งนี้ เทียบเท่ากับจำนวนคดีในปี 2567 ทั้งปี แสดงให้เห็นถึงการทำงานอย่างเข้มข้นของเจ้าหน้าที่
ส่วนนายกรัฐมนตรีได้มีการกำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น น.ส.จิราพร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยเป็นพิเศษเรื่องของเด็กและเยาวชน เพราะนอกจากบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว ยังมีสินค้าอีกรูปแบบหนึ่งคือแก๊สหัวเราะ ที่พุ่งเป้าไปยังเด็กและเยาวชน เป็นสิ่งที่รัฐบาลกังวล นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานอย่างเข้มข้นในการกวาดล้างด้วย
ส่วนกรณีที่มีภาพ สส.พรรคฝ่ายค้าน สูบบุหรี่ไฟฟ้าในอาคารรัฐสภา น.ส.จิราพร กล่าวว่า ทางรัฐสภาจะต้องดูว่าจะมีมาตรการอย่างไรในการดำเนินการ และในส่วนของ สส.ก็เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองและกฎหมายด้วย หากคิดว่ากระทำความผิด ก็สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่รัฐได้ โดยเฉพาะแหล่งซื้อขาย
เมื่อถามว่า อนาคตบุหรี่ไฟฟ้ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการแก้ไขให้ถูกกฎหมาย น.ส.จิราพร กล่าวว่า เป็นเรื่องระยะยาว ขณะนี้คิดว่าต้องเป็นการปูพรมกวาดล้าง เพื่อไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ง่าย ส่วนการแก้ไขกฎหมายต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาคุยกัน และรับฟังทุกภาคส่วน
ซึ่งทางสภาผู้แทนราษฎร ก็คงจะมีรายงานจากคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเร็ว ๆ นี้ ส่วนการแก้กฎหมายจะแก้อย่างไรนั้น ต้องมาดูให้ละเอียดเพราะมีการแก้หลายฉบับ ต้องคำนึงถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ วิธีการรับมือเพราะแต่ละประเทศก็มีวิธีการรับมือบุหรี่ไฟฟ้าไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้อง ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในระยะยาว