ศึกซักฟอกยกที่ 1 รัฐบาล VS ฝ่ายค้าน ซ้ำดาบ ยุทธการโรยเกลือ

อภิปรายไม่ไว้วางใจ

ประเดิมศึกแรกของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

รัฐบาลตั้งป้อมรับมือการถล่มของฝ่ายค้านอย่างเต็มพิกัด มีขุนพล-องครักษ์ถึง 18 ชีวิต ที่จะคอยลุกขึ้นประท้วง หากฝ่ายค้านอภิปรายผิดข้อบังคับการประชุม

ตามญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน พุ่งเป้าที่นายกฯ วัย 39 ปี อาทิ

1.ไม่มีคุณสมบัติ และไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารด้วยประการทั้งปวง ทั้งขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ และขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดินที่แก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติและประชาชน

2.จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่เพียงเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเอง บุคคลในครอบครัว พวกพ้องเป็นตัวตั้งอยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม

3.บริหารบ้านเมืองเพื่อเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องและกลุ่มทุน แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความเหมาะสม ขาดความรู้ความสามารถ

ADVERTISMENT

4.สมัครใจยินยอมให้บุคคลในครอบครัว ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง

อิ๊งค์ไม่กังวล

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้เรียกประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 มีนาคม “แพทองธาร”  โพสต์ภาพและข้อความผ่านInstagram ส่วนตัว เปิดเผยบรรยากาศวงดินเนอร์กับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลที่โรงแรมโรสวูด เมื่อวันที่21 มี.ค.ที่ผ่านมา ข้อความระบุว่า

ADVERTISMENT

หัวเราะเยอะกว่าทานข้าวไม่เกินจริง นั่งฟังประสบการณ์ในสภาจากทุกท่าน ย้อนไปถึงสมัยท่านนายกฯ ชาติชาย (พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ) บางท่านเคยเป็นฝ่ายค้าน บางท่านเคยถูกอภิปรายอย่างหนัก รูปแบบห้องทานข้าว ตึกเดิม ยุคแพ็คลิงค์ ก็มา!!

“ขอบพระคุณประสบการณ์จากทุกท่านที่ได้ แชร์กันตอนทานข้าวค่ะ สนุกสนาน มีกำลังใจ ได้คุยครบทุกคนเจอกันวันจันทร์นะคะ”

ขณะที่ โทรโข่งประจำรัฐบาล “จิรายุ ห่วงทรัพย์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฟังที่ฝ่ายค้าน ออกแขก แสดงความดูถูก เหยียดเพศ หยาบคาย ตลอดสัปดาห์โดยใช้ภาษาต่ำสะดืออย่างไม่น่าเชื่อว่าจะออกจากปากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เรียกร้องเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม และพูดเสมอว่าอยากทำการเมืองใหม่

และมีบางช่วงที่บอกตนเองเป็นขบวนการไรเดอร์จึงทำให้พอเห็นภาพว่าการอภิปราย2วันนี้ น่าจะเป็นหนัง ภารตะ ที่วิ่งไล่ไปมาตามต้นไม้ กว่าที่คนฟังจะหาประเด็นได้ คงจะหลับก่อน

ส่วนกรณีที่รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีภาวะความกังวลอย่างมากในการอภิปรายครั้งนี้ ขอแนะฝ่ายค้านว่าอย่าไปคิดแทนคนอื่น เพราะดูจากช่วงเวลา 2-3 วัน ที่ผ่านมา นายกฯมีความสุขสดชื่น และพร้อมโดยไม่มีอะไรให้กังวล และยังเตรียมข้อมูลที่จะชี้แจงผลงานของรัฐบาลในรอบ 6 เดือน ที่ทำงานมาอย่างเต็มที่ เรียกว่าฝีมือระดับ  “Wonder Woman“ขณะที่ความกดดันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ไม่ได้ตกอยู่ที่รัฐบาลหรือนายกฯ แต่ตกอยู่ที่ฝ่ายค้าน ที่จะต้องอภิปรายให้ปังไม่ใช่เอาแค่ข่าวเก่าข่าวแปะมาอภิปราย

 “ผมหวังว่าการอภิปราย จะไม่มีภาษาตลาดล่าง ต่ำสะดือออกมาอีก เพื่อยกระดับรัฐสภาไทย อย่างที่คนรุ่นใหม่คาดหวังกันไว้ให้เป็นสภาระดับสากล และฝ่ายค้านควรจะช่วยกันนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างที่คาดหวังไว้”

ฝ่ายค้านบอกข้อสอบไว้แล้ว

ด้าน “สมคิด เชื้อคง” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มั่นใจว่านายกฯ ไม่มีปัญหา นายกฯ ชี้แจงได้ วันนี้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลฝ่ายค้านบอกข้อสอบเรา เราก็ทำข้อสอบมาแล้ว คุณเขียนโจทย์แล้ว ต่อให้เอาชื่อทักษิณ ชินวัตร ออก มันมีโจทย์แล้ว รัฐบาลมีคำตอบ ไม่มีปัญหาเรื่องนายกฯ ตอบหรอกครับ แม้นายกฯ จะใหม่ ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจจะตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ก็เป็นการตอบตามหลักการ

เรื่องการเล่นวาทกรรมมีบ้าง การเมืองเราเข้าใจ แต่อย่าเลยเถิดมาก เพราะในสภามีข้อบังคับคุ้มครองอยู่ถ้าเลยเถิดมากก็มีคนประท้วงกันอยู่แล้ว

มีเรื่องหนึ่งที่พยายายมจะพูดกันคือ Entertainment Complex รัฐบาลต้องชี้แจงให้ชัดเจน ส่วนนอกสภาค่อยว่ากันอีกที แต่ต้องชี้แจงในสภา เรื่องนี้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่ๆ 4-5 คำถาม ดังนั้น ตอบก่อนว่าจะไปยังไง

ส่วน ประธานวิปรัฐบาล “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย คาดการณ์ว่า ดูแล้วไม่ราบรื่น เป็นธรรมดาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะไม่ใช่การยอวาที แต่เป็นการกล่าวหา และฝ่ายค้านคงกล่าวหาบุคคลในครอบครัวนายกรัฐมนตรีเยอะ เพราะต้องการให้รัฐบาลประท้วงมากที่สุด จะได้ถูกประชาชนบุลลี่ แต่หากฝ่ายค้านทำผิดข้อบังคับการประชุมจริงๆ ก็จำเป็นต้องประท้วง

ฝ่ายค้านพร้อม 100%

ด้านพรรคฝ่ายค้าน  “ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน  ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงความพร้อมในการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ว่า เรามีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยลำดับการอภิปรายเบื้องต้นกำหนดไว้ตามสัดส่วนเวลา ส่วนรายชื่อในการอภิปรายของพรรค ปชน.นั้น ทางพรรคจะมีการทยอยเปิดอีกครั้ง สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นๆ ก็จะมีการสลับเป็นวันแรกและวันที่สองบ้าง

วันแรก จะมีความหลากหลายซึ่งจะเกี่ยวข้องกับตัวของนายกรัฐมนตรีโดยตรง โดยบางประเด็นอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับบางกระทรวงบ้าง แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีโดยตรง ทั้งนี้ เราไม่ได้แบ่งถึงขนาดว่าวันแรกต้องเป็นเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ในแต่ละวันนั้นจะมีไฮไลท์อยู่แล้ว

ซ้ำดาบยุทธการโรยเกลือ

ขณะที่ “รังสิมันต์ โรม” ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน เล่าถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทุกเรื่องที่เป็นความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงความล้มเหลวแก้ปัญหาต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน เป็นเรื่องที่เราสามารถหยิบขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทั้งสิ้น และการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือเรื่องที่เป็นปัญหาที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งความล้มเหลวนี้ไม่ได้อยู่ที่พวกเรา แต่ความล้มเหลวนี้อยู่ที่ตัวท่าน ดังนั้นทุกเรื่องทั้งมิติความมั่นคง การทุจริตคอรัปชั่น ปัญหาเศรษฐกิจเรื่องเหล่านี้เราก็สามารถหยิบเอามาอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

โดยการอภิปรายเริ่มต้นจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรในการอ่านญัตติ และหลังจากนั้นมีอีกหลายท่านที่อภิปราย ซึ่งตนคิดว่าหลายส่วนเราค่อนข้างมั่นใจในเรื่องพยานเอกสาร พยานหลักฐานต่างๆ ไว้วางใจและหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจไป

หลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจจบ จะมีแผนต่อไปคือ ยุทธการ ‘โรยเกลือ’

“หลังจากที่เราเปิดเอกสารที่ค่อนข้างมั่นใจว่าเอาผิดได้แน่นอน ยุทธการนี้จะเป็นการดำเนินการทางกฎหมายต่อไปกับทางนายกรัฐมนตรี”