เท้ง​ ขู่ก่อน​ศึกซักฟอก แฉ​มีข้อมูลลับ​ อาจทำ รมต.หลุดเก้าอี้ ปัด​ดีลพรรครัฐบาล

นายณัฐพงษ์​ เรืองปัญญาวุฒิ

ผู้นำฝ่ายค้านประเดิม​ขู่นายกฯ ก่อนเริ่ม​ศึกซักฟอก แฉ​มีข้อมูลลับอาจถอดถอน​ รมต.ได้​-ปัด​ดีลพรรคร่วมรัฐบาล​ ขอจับตา​ ‘ประวิตร​-​เฉลิม​‘ ร่วมวง​ บอก​ 10 นาทีคุ้มค่า

นายณัฐพงษ์​ เรืองปัญญาวุฒิ​ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่าวันนี้มั่นใจเต็มที่ เราเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว และทางรัฐบาลควรจะตอบคำถามว่ามีความพร้อมหรือไม่​ และวันนี้ก่อนที่จะมีการเริ่มอภิปราย หากได้เห็นสัญญาณว่ามีการขัดขวางรัฐบาลก็จะได้รับผลเสียมากที่สุด

พร้อมทั้งยอมรับว่าพรรคประชาชนเตรียมรับมือกับการประท้วงของฝ่ายรัฐบาล และ สส.พรรคประชาชนแม่นในข้อบังคับและพร้อมที่จะทำหน้าที่ทุกคน​ ซึ่งก็ไม่ได้กังวลอะไร ยังเชิญชวนประชาชนให้รับชมการอภิปรายในวันนี้ เพราะมีไฮไลต์ที่ต้องจับตาในหลายประเด็น

เมื่อถามถึงหัวข้อญัตติดีลแลกประเทศหมายถึงอะไร นายณัฐพงษ์กล่าวว่า​ คือสิ่งที่ประชาชนต้องสูญเสียไป เป็นต้นทุนของการเสียโอกาส รวมถึงผลประโยชน์ทับซ้อนที่เป็นเงินภาษีของประชาชน ที่ต้องแลกกับการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นดีลแลกประเทศ เพื่อผลประโยชน์ของคนในตระกูลชินวัตร และพรรคร่วมรัฐบาล

ส่วนตระกูลชินวัตรจะครอบคลุมขนาดไหนนั้น​ ยอมรับว่ามีหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงอยากให้ติดตามการอภิปรายใน 2 วันนี้ เพราะถือเป็นสาระสำคัญ ส่วนการอภิปรายจะมีมากกว่า​นายทักษิณ​ ชินวัตร​ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ขอใช้คำว่าคนในตระกูลชินวัตรดีกว่า เพราะครอบคลุมอยู่แล้ว และยืนยันว่าทุกคนที่ถูกพาดพิงจะยืนอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และมีส่วนสำคัญในการอภิปรายครั้งนี้ เพื่อชี้ให้เห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลนั้นไม่ชอบธรรม และเป็นดีลแลกประเทศจริง

เมื่อถามว่ากังวลว่าบุคคลภายนอกจะฟ้องหมิ่นประมาทหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่าไม่ห่วง เพราะตามบทข้อบังคับ ผู้อภิปรายต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว หากพาดพิงบุคคลภายนอก และเรามั่นใจในข้อมูล ว่าไม่น่าจะถูกฟ้องร้องอะไร

ADVERTISMENT

เมื่อถามตอบว่า กรณีที่นายทักษิณ​ให้สัมภาษณ์ว่า​ไม่กลัวยุทธการ​โรยเกลือของพรรคฝ่ายค้าน แต่จะโรยน้ำตาลกลับ ผู้นำฝ่ายค้าน​ระบุว่า หากเขาโรยน้ำตาลกลับมาจริง ๆ ก็อาจจะเป็นการอภิปรายที่มีสีสัน แต่มั่นใจว่าพรรคฝ่ายค้านจะกรีดแผล และหลังเสร็จสิ้นการอภิปราย แม้รัฐบาลจะมีเสียงข้างมากฝ่ายค้านไม่สามารถโหวตถอดนายกรัฐมนตรีได้ แต่การดำเนินการหลังจากนี้จะสร้างแรงสะเทือนถึงรัฐบาลได้

เมื่อถามย้ำว่าคำสัมภาษณ์ของนายทักษิณที่ผ่านมาเหมือนมีนัยยะ ว่าการอภิปรายไม่ได้มีอะไร เหมือนกับมีการพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว นายณัฐพงษ์​กล่าวว่า​อยากให้รอดูการอภิปราย ว่าจะมีการอยู่กับฝ่ายรัฐบาลอย่างที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ และข้อมูลที่จะนำเสนอใน 2 วันนี้จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน​ คนที่มีดีลไม่ใช่พรรคประชาชนหรือพรรคฝ่ายค้าน แต่เป็นการดีลระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล​ เพื่อนำไปสู่ผลประโยชน์ทับซ้อน

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคภูมิใจไทยดีลกับพรรคประชาชน เพื่อหวังผล ​44 สส.​ คดีแก้ ม.​112 นายณัฐพงษ์​กล่าวว่า​ไม่เกี่ยว เพราะการอภิปรายจะมีการพาดพิงหลายกระทรวง มีรัฐมนตรีหลายคนที่เกี่ยวข้อง และข้อมูลที่นำเสนอ ทุกคนมีเอกสิทธิ์ความเป็น สส.คุ้มครอง ดังนั้น ทุกหลักฐานที่เปิดเผย จะนำไปสู่การยื่นขอถอดถอนรัฐมนตรี​ที่ไม่สามารถตอบข้อชี้แจงได้​ เพื่อจะชี้ให้เห็นจุดเริ่มต้นของปัญหา อย่างไรก็ตาม ดีลแลกประเทศเราไม่ได้หมายถึงการพานายทักษิณกลับบ้าน เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง

ส่วนการเพิ่มวันอภิปรายนั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่าขึ้นอยู่กับว่าฝั่งรัฐบาลสามารถควบคุมเวลาได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้น ก่อนเปิดการประชุมในวันนี้ หากมีการตีรวนจากฝั่งรัฐบาล จนทำให้การอภิปรายไม่จบใน 2 วัน ก็ต้องโทษฝั่งรัฐบาล และคาดหวังว่าอยากให้นายกรัฐมนตรีอยู่ตอบคำถามมากที่สุด แต่เชื่อว่าท่านคงมีภารกิจครอบครัว คงไปกะเกณฑ์ไม่ได้ ว่าต้องอยู่กี่ชั่วโมง

ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านให้เวลา ร.ต.อ.เฉลิม​ อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย​ ในการอภิปรายรัฐบาล นายณัฐพงษ์กล่าวว่าขอให้รอดูหน้างาน เพราะมีเสียงสะท้อนจากฝั่งรัฐบาล แต่ฝ่ายค้านก็มองว่าให้โอกาสสมาชิกทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าสังกัดพรรคใด หากมีข้อมูลที่จะตรวจสอบฝ่ายตรงข้าม แต่ทางเว็บฝ่ายค้านยังไม่เคยเจรจาโดยตรงกับร้อยตำรวจเอกเฉลิม เพียงแต่ได้รับการประสานในทางอ้อม

ส่วนกรณีที่จะให้เวลาการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน 10 นาที​ ให้ พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อภิปราย​ นายณัฐพงษ์กล่าวว่าถือว่าเป็นเวลาที่คุ้มค่า และที่ผ่านมาไม่ได้เห็นบทบาทของพลเอกประวิตรในสภามากนัก ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงที่น่าติดตาม​

นายณัฐพงษ์ยังกล่าวอีกว่า​ ประเด็นที่จะอภิปรายในวันนี้ นอกจากจะเป็นการบริหารงานล้มเหลวของรัฐบาลแล้ว ยังมีเรื่องการทุจริตระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และการขาดคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี หรือตัวรัฐมนตรี และมีข้อมูลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน และมีความเป็นไปได้สูงที่จะนำไปสู่การถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้จริง