ตำนาน “ที่ดินอัลไพน์” ในอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ทำให้อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยถูกจำคุก

ตำนาน 'ที่ดินอัลไพน์' ในอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ปมที่ดินอัลไพน์ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

เมื่อฝ่ายค้าน “จุลพงษ์ อยู่เกษ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจว่า นายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรมร่วมสมคบคิดกับคนในครอบครัว ใช้อิทธิพลทางการเมืองของบิดาเพื่อให้ที่ธรณีสงฆ์ที่บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ที่ยึดถืออยู่ไม่ต้องคืนเป็นที่ดินของวัด

หลังจากที่ น.ส.แพทองธารได้ถือหุ้นแทนบิดาในบริษัทดังกล่าวมาซักระยะหนึ่ง น.ส.แพทองธารก็ได้เข้ามาเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวในช่วงปี’59-67 และ น.ส.แพทองธารก็ทราบดีว่าที่ดินสนามกอล์ฟของบริษัทเป็นที่ธรณีสงฆ์ที่ควรต้องคืนกลับให้วัด หลังจากมีคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลอาญาทุจริต

แต่ น.ส.แพทองธาร ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจไม่เคยแสดงเจตนาที่จะทำเรื่องนี้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ฉวยโอกาสให้บริษัทของตัวเองประกอบธุรกิจสนามกอล์ฟเพื่อแสวงหากำไรจากที่ดินของวัด เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเมื่อ น.ส.แพทองธารมีอำนาจเป็นนายกฯ ก็ใช้อำนาจหน้าที่กับข้าราชการเพื่อฮุบที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ให้นานที่สุด

ตอนนี้นายกฯยังนำเรื่องสนามกอล์ฟมาต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อจะได้ค่าชดเชยจากกรมที่ดินกว่า 7 พันล้านกว่าบาท จากการที่ถูกเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ของวัดหากจะต้องโอนที่ดินคืนให้แก่วัด

ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวของ น.ส.แพทองธาร แสดงให้ประจักษ์ชัดว่า เป็นบุคคลที่ไร้ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไร้ธรรมาภิบาล เห็นประโยชน์ส่วนตัวและบุคคลในครอบครัวมากกว่าผลประโยชน์สาธารณะ ในทางศาสนาของการเป็นที่ธรณีสงฆ์ จึงทำให้ตนไม่สามารถไว้วางใจให้ท่านเป็นนายกฯได้อีกต่อไป ซึ่งสิ่งที่ทำให้ตนต้องเอาเรื่องสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่เกิดตั้งแต่ปีมะโว้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯนั้น เพราะเรื่องมีปัญหาไม่จบไม่สิ้น

ADVERTISMENT

ปัญหาคาราคาซังมานานจนถึงทุกวันนี้ เพราะมีการช่วยเหลือเอื้อประโยชน์กัน เพื่อไม่ให้ที่ธรณีสงฆ์ส่งกลับเป็นของวัด และนายกฯกับบุคคลในครอบครัวมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน

ADVERTISMENT

ช่วงแรกที่เข้าไปซื้อหุ้นบริษัทอัลไพน์ของบิดานายกฯ ไม่ได้ถือหุ้นบริษัทอัลไพน์ฯไว้เอง แต่บิดานายกฯซุกหุ้นเอาไว้กับคนใช้ คนขับรถ และ รปภ. เป็นนอมินีถือหุ้นแทนเท่ากัน เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่บิดานายกฯ ถูกเปิดโปงเรื่องซุกหุ้น จนโดน ป.ป.ช.ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ บิดาของนายกฯก็เลยโอนหุ้นจากนอมินีสามคนให้กับนายกฯ พี่สาวนายกฯ และแม่นายกฯ เท่า ๆ กันในปี’44 ได้จ่ายเงินซื้อหุ้นบริษัทอัลไพน์ฯ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาทแล้วหรือไม่ หรือเอามาฟรีเพื่อเป็นนอมินีให้กับบิดา และเมื่อนายกฯถือหุ้นบริษัทอัลไพน์ฯ ก็เท่ากับว่าเป็นเจ้าของที่ธรณีสงฆ์ที่เป็นสนามกอล์ฟไปด้วย

ผู้สอบบัญชีบริษัทอัลไพน์ฯ ได้ทำบันทึกในหมายเหตุประกอบการทุกปีว่าที่ดินของบริษัทที่ได้รับการโอนขายมรดกของคุณยายเนื่อม มีปัญหามาโดยตลอด และมีการระบุอย่างชัดเจน