ฝ่ายค้าน อภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อไทย แลกคดีเหมืองทองอัครา ดีล รทสช.ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาชนย้อนเกล็ดเพื่อไทย ปมเหมืองทองอัครา พอเป็นรัฐบาลไม่เห็นทำเหมือนตอนเป็นฝ่ายค้าน จะเอา หรือ ดีล รทสช.ข้ามขั้วตั้งรัฐบาล แลกกับเอาคนในครอบครัวกลับบ้าน

ที่รัฐสภา ในการพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี นายอิทธิพล ชลธราศิริ สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน อภิปรายถึงเหมืองทองอัครา ที่สมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ โดยระบุถึง สส.พรรคเพื่อไทย ทั้งนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และน.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติไว้มากมาย

แต่พอมาเป็นรัฐบาล กลับหลงลืมและล้มเหลวที่จะทำตามคำพูดที่เคยพูดไว้ทุกเรื่อง ความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีสาเหตุสำคัญมาจากปัญหาทางการเมือง ที่ทำทุกวิถีทางให้ได้มาซึ่งอำนาจ ประเทศไทยเราเลยได้รัฐบาลไม่ตรงปก เพราะเนื้อในของนายกฯไม่มีความรับผิดชอบต่อประชาชนเลย

ยอมละทิ้งสัจจะเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล ยอมทุกอย่างเพื่อนำตัวบุคคลในครอบครัวกลับบ้าน แลกกับการเป็นนั่งร้านให้กับ พล.อ.ประยุทธ์คอยระวังหลังไม่ให้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่มีการกระทำความผิดไว้ โดยไม่สนใจว่าท้ายที่สุดแล้วความอยากได้ผลประโยชน์ทางการเมืองของนายกฯ จะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติบ้านเมืองอย่างไร

ตอนที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำผิดไว้หลายเรื่อง ตนจึงไปฟังที่ท่านอภิปรายทั้ง 5 ครั้ง สรุปได้ว่ามีวิธีการแก้ปัญหาเรื่องเหมืองทองอัคราอยู่ 4 ข้อคือ 1.ต้องดำเนินคดีกับ พล.อ.ประยุทธ์ เอาคนผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด 2.ต้องไม่เลื่อนขอออกคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการอีกแล้ว 3.ต้องหยุดพฤติกรรมขายชาติ หยุดประเคนผลประโยชน์ของประเทศชาติให้กับคิงส์เกต และ 4.ต้องยุติการล้มคดีทั้งหมดให้กับบริษัทคิงส์เกต แต่นี่ 2 ปีแล้วที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ก็ยังไม่มีคำชี้ขาดออกมา และไม่ได้ทำอย่างที่พูดไว้เลย ตอนพูด พูดอย่างน้ำไหลไฟดับ พอได้เป็นรัฐบาลกลายเป็นเพียงน้ำท่วมทุ่งไปแล้ว

“พอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลคุณแพทองธาร ได้เป็นนายกฯ ทุกคนที่ออกมาด่า พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องเหมืองทองอัคร ได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรีกันทุกคน แทนที่จะเด็ดหัวสอยนั่งร้านเผด็จการ ท่านกลับทำตัวเป็นนั่งร้านเสียเอง ขนาดนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็น รมว.อุตสาหรรมในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่พวกท่านก็ด่าว่าเป็นนั่งร้านให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้มาเป็น รมว.คมนาคม ในรัฐบาลแพทองธารเลย”

ADVERTISMENT

“ผมไม่เห็นว่าพวกท่านจะทำอย่างที่พูดสักอย่าง โดยเฉพาะนายกฯ แพทองธารที่เคยท่องตามเป็นนกแก้วนำขุนทอง บอกว่าจะปิดสวิตช์ 3 ป.แล้ว ป.ประยุทธ์จะปิดเมื่อไหร่ และการที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่ในรัฐบาล ไม่ได้เรียกว่าปิด ถ้าปิดจริงต้องดำเนินคดี เพราะเป็นสิ่งที่ท่านเคยพูดเอาไว้เอง โดยเฉพาะรัฐมนตรีจิราพรที่เคยอภิปรายไว้” นายอิทธิพลกล่าว

จากนั้นนายอิทธิพลอภิปรายต่อว่า น.ส.จิราพรพูดถึงขนาดจะเอาพล.อ.ประยุทธ์ ออกจากบ้านหลวง ไปใช้น้ำฟรี ไฟฟรี กินข้าวฟรีในเรือนจำ แต่พอพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ตั้งแต่นายเศรษฐาก็เอาคนของพรรครวมไทยสร้างชาติมาเป็น รมว.อุตสาหกรรม ดูแลคดีเหมืองทองอัครา คอยสกัดหน้าระวังหลังให้กับ พล.อ.ประยุทธ์

ADVERTISMENT

มาสมัย น.ส.แพทองธารก็ยังเอาคนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ มาดูแลต่ออีก อย่างนี้หมายความว่าอย่างไร เอาคนของ พล.อ.ประยุทธ์มาคุมกระทรวงที่พล.อ.ประยุทธ์เคยกระทำผิดไว้ แบบนี้เมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์จะได้เข้าคุก เมื่อไหร่จะได้ทำอย่างที่พูดไว้ ตนว่าชัดเจนไม่มีการเอา พล.อ.ประยุทธ์เข้าคุก มีแต่ช่วยกันหลับหูหลับตา ตั้งเครือข่ายของ พล.อ.ประยุทธ์มาช่วยเหลือกันให้พ้นผิด ถ้ายอมกลืนน้ำลายตัวเองแบบนี้มีเหตุผลเดียวเป็นดีลจัดตั้งรัฐบาลถ้าพรรคเพื่อไทยต้องการเป็นรัฐบาล ถ้านายกฯ ต้องการให้คนในครอบครัวกลับบ้าน ก็ต้องยอมยกเก้าอี้กระทรวงอุตสาหกรรมให้กับพรรคร่วมไทยสร้างชาติ

“นี่เป็นการเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติแลกกับผลประโยชน์ส่วนตน ท่านนายกฯ แพทองธาร ท่านทรยศหักหลังประชาชนที่เขาเคยเชื่อท่าน ท่านก็รู้ว่าท่าน รมต.น้ำจิราพรเคยพูดไว้ว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์หลุดจากตำแหน่งนายกฯ เมื่อไหร่ จะดำเนินคดีทันที เมื่ออำนาจรัฐอยู่ในมือพรรคเพื่อไทยเมื่อไหร่จะตั้งกรรมการสอบกรณีเหมืองทองอัคราทันที” นายอิทธิพลกล่าว

ทำให้นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นประท้วงว่า การเอ่ยชื่อบุคคลภายนอกไม่เหมาะสม ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ปัจจุบัน ไม่ใช่อภิปรายอดีตนายกฯ วันนี้ท่านพูดถึงบุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนที่คนไทยทั้งประเทศยังคิดถึงท่านอยู่ สร้างคุณงามความดีไว้เยอะแยะ เพราะฉะนั้นท่านควรจะใช้คำอื่น ไม่เช่นนั้นสภาแห่งนี้ก็ไม่ราบรื่น เพราะหากเอ่ยตลอด ตนคิดว่า สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 คนก็ประท้วงไม่หยุด ตนไม่คิดจะประท้วง เพราะให้เกียรติ แต่มันทนไม่ไหวจริง ๆ

นายอิทธิพลอภิปรายต่อว่า ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยของนายกฯ พูดดักคอเอาไว้ตอนนั้นได้แม่น เพราะในที่สุดของรัฐบาลที่แล้วก็ได้อนุญาตให้ไปสำรวจและทำเหมืองที่แหล่งสุวรรณ และแหล่งโชคดี อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งทั้งสองพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนและเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งเรื่องนี้ น.ส.จิราพรเคยอภิปรายไว้เองกลางสภา

และยังมีการลักไก่หลังจากยุบสภาในวันที่ 17 มีนาคม 2566 เพียง 6 วันต่อมา รัฐบาลที่แล้วได้มีคำสั่งอนุญาตให้เมืองทองอัครากลับมาทำการได้เหมือนเดิม ซึ่งหากเป็นแบบนี้ข้อกล่าวหาของตนตรงไปตรงมา นายกฯ ก็รู้ว่าการอนุญาตให้เข้าไปสำรวจ และไปทำเหมืองที่แหล่งสุวรรณและแหล่งโชคดี ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งทำไม่ได้ พ.ร.บ.แร่ ในเมื่อนายกฯ รู้ว่าทำเช่นนี้ผิดกฎหมาย แล้วทำไมพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเกือบ 2 ปีถึงยังไม่ได้เอาผิดกับใครเลย

“พรรคของท่านก็พูดเองกับปากว่าผิดกฎหมาย แต่แน่นอนว่านายกฯ คงไม่เอาผิดกับใครเหมือนเดิม เพราะเป็นดีลจะตั้งรัฐบาล ที่จะไม่ไปสืบสาวราวเรื่อง ถ้าไปเพิกถอนใบอนุญาตทำเหมืองก็เท่ากับว่ามีคนทำผิดกฎหมาย เดี๋ยวดีลจัดตั้งรัฐบาลจะล่ม ดังนั้น รัฐบาลนายกฯ แพทองธารก็คงปล่อยให้มีการหาผลประโยชน์จากทรัพยากรแร่ของเราแบบผิดกฎหมายต่อไป ผมจึงไม่อาจไว้วางใจนายกฯ ที่เห็นผลประโยชน์ส่วนตนสำคัญกว่าผลประโยชน์ของชาติ เพราะท่านไม่มีความมุ่งมั่นที่จะปิดสวิตช์ 3 ป. ไม่ปิดสวิตช์ สว. คนไทยยังไม่มีกินมีใช้ รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ไม่มีเกียรติ ศักดิ์ศรีพอที่จะให้ประชาชนเชื่อมั่นได้” นายอิทธิพลกล่าว