
“ศิริกัญญา” ชี้ประชาชนทนไม่ไหวกับรัฐบาลแพทองธาร ไร้ความสามารถในการบริหาร เศรษฐกิจย่ำแย่ ทำ “เกษตรกร-แรงงาน-นายทุน” เดือดร้อนถ้วนหน้า วางใจให้เป็นนายกฯไม่ได้อีกต่อไป
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคลวันที่ 2
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายหัวข้อการบริหารงานด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีว่า นายกฯไม่เก่งจริง ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ บริหารงานล้มเหลวจนเศรษฐกิจพัง เดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า “ทำให้คนร้องหาคิดถึงลุงตู่” ถือว่าเลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี บริหารเศรษฐกิจท่าไหนทำให้คนกลับไปนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ
รายได้เกษตรกรตกต่ำแทบทุกพืช ข้าวลดลง 17% อ้อยลดลง 14% มันสำปะหลังลดลง 38% และข้าวโพดลดลง 21% ในส่วนนี้ไม่โทษกระทรวงพาณิชย์ ไม่โทษกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่โทษท่านนายกฯ ที่ไม่สามารถให้ทิศทางการแก้ปัญหากับรัฐมนตรีได้ ไม่มีความสนใจต่อการแก้ปัญหา และไม่มีน้ำยาพอที่จะประสานงานรัฐมนตรีต่างพรรคให้ทำงานได้
“ปัญหาอยู่ที่นายกฯ ที่แก้ปัญหาไม่เป็น ใช้คนแก้ปัญหาไม่เป็น รายได้คนไม่เพิ่ม โตไม่ทันค่าครองชีพ นอกจากรายได้ฝั่งเกษตรที่ลดลง รายได้ของแรงงานมนุษย์เงินเดือนก็ไม่เพิ่ม
“นายกฯขยันพูดเรื่องการเติบโตของจีดีพี ชาวบ้านไม่รู้สึกอะไรด้วย เพราะจีดีพีโตแต่รายได้ประชาชนไม่ได้เพิ่มด้วย รายได้ชาวนาชาวไร่แดงเถือก รายได้แรงงานไม่โต นายกฯก็ยังชอบสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ กี่ครั้งกี่หนแล้วที่นายกฯพร่ำเพ้อพูดเรื่องค่าแรง 400 บาท พ่นลมปากออกมาทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าทำไม่ได้ แต่ให้ความหวังไม่หยุด บอกปี’68 ได้แน่ แต่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคี 2 รอบแล้วยังทำไม่ได้
“วันนี้มีนายกฯ 2 คนก็ยังทำไม่ได้ หลอกแรงงานให้มีความหวัง แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำแบบเด็กเล่นขายของ” น.ส.ศิริกัญญากล่าว
น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า แม้แต่นักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นยังได้รับผลกระทบจากการที่ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ และอย่าคิดว่าบริษัทใหญ่ ๆ เจ้าสัวนายทุนจะรอดทุกราย แนวโน้มไม่สู้ดีเพราะ 925 บริษัทกำไรลดลงจากปีก่อน เหลือไม่กี่บริษัทที่ยังเติบโตได้ในประเทศนี้
ถ้าไม่มีสัมพันธ์อันแนบชิดกับภาคการเมืองปัจจุบันก็เป็นกลุ่มที่มีสัมปทานภาครัฐ ปัญหาแท้จริงอยู่ที่การบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด แก้ปัญหารายวันขายผ้าเอาหน้ารอด เศรษฐกิจไทยไม่ใช่ไม่ดี ใครว่าไม่ดีตนเถียงขาดใจ ตอนนี้ดีสุด ๆ แล้ว แต่หลังจากนี้ไปจะเป็นขาลง
ดิจิทัลวอลเลตล้มเหลว
น.ส.ศิริกัญญากล่าวอีกว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจตามโครงการดิจิทัลวอลเลต 1.8 แสนล้านบาท ล้มเหลวสิ้นเชิง การบริโภคไม่กระเตื้อง จีดีพีไม่กระตุก กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ขึ้น กระตุ้นความนิยมไม่ขึ้นเช่นกัน มาตรการเร่งรัดการลงทุนภาครัฐบอกว่าจะเร่งเบิกจ่าย แต่ก็ไม่ได้ผล หมดปีเบิกจ่ายไปได้เพียง 65%
ทุกวันนี้รัฐบาลไม่มีแผนภาพรวมมองไม่เห็นทางออก ล่าสุดโครงการใหม่มาอีกจะซื้อหนี้ประชาชน ไม่ติดที่จะช่วยเหลือประชาชน แต่ถ้าจะทำใหม่อีกโครงการ ควรรอให้โครงการเก่าดำเนินการไปสักพักดีหรือไม่
“พอหลังชนฝาแก้ปัญหารายวันไปเรื่อย ๆ พอหมดมุขก็ไปงัดของเก่ามาขาย เป็นการหากินกับบุญเก่า เอะอะเรียกความเชื่อมั่นจากความสำเร็จในอดีต คิดอะไรไม่ออกเอานโยบายในอดีตมาปัดฝุ่นทำใหม่แล้วอธิษฐานว่าให้ได้ผลแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นปลุกผีกองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร รีแบรนด์บ้านเอื้ออาทรเป็นบ้านเพื่อคนไทย แต่วันนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิม เศรษฐกิจฐานรากเปลี่ยนไปมาก ปัจจุบันหมดบุญเก่าต้องใช้ฝีมือตัวเองจริง ๆ ผลงานเลยออกมาแบบที่เห็น นอกจากเอาบุญเก่ามาขาย ยังมีความฝันว่าจะไปไกลถึงดวงดาว แต่ไปได้แค่ยอดมะพร้าว เพราะว่ามือไม่ถึง” น.ส.ศิริกัญญากล่าว
น.ส.ศิริกัญญากล่าวด้วยว่า การส่งกลับชาวอุยกูร์จะกระทบปากท้องเราเร็ว ๆ นี้ ก่อนหน้านี้ รมว.ต่างประเทศ สหรัฐ ดูมีไมตรีกับรัฐบาลไทยมาตลอด แต่พอเราตัดสินใจอะไรไปแล้วแต้มต่อคงหายไปด้วย สหภาพยุโรป (อียู) ลงมติประณามไทยเรียกร้องให้ใช้เอฟทีเอกับไทยหลายเรื่อง ขึ้นอยู่กับรัฐบาลไทยจะชี้แจงอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบการเจรจาการค้าเสรี
อภิปรายมาทั้งหมดไม่คาดหวังการชี้แจง ไม่ต้องมายกตัวเลขว่าเศรษฐกิจดี ยิ่งพูดยิ่งสะท้อนว่านายกฯ และบรรดาลูกน้องรัฐมนตรีของท่านกับประชาชนอยู่คนละโลก เราให้เวลาให้โอกาสท่านมามากพอแล้ว แต่ท่านยังทำนโยบายรายวัน ขายผ้าเอาหน้ารอดไปวัน ๆ ศักยภาพผู้นำประเทศเป็นแบบนี้ สถานการณ์ยังไม่ปั่นป่วนท่านยังทำให้วิบัติได้ขนาดนี้ คลื่นลมพายุกำลังจะมา เราคงไม่สามารถมีผู้นำประเทศแบบนี้ได้จริง ๆ เราไม่สามารถอยู่ในสภาวะสิ้นหวังได้อีกแล้ว ไม่สามารถไว้วางใจแพทองธารเป็นนายกฯได้อีกต่อไป