
รัฐบาลแน่นปึ้ก ลงมีมติไว้วางใจแพทองธาร ท่วมท้น 319 ต่อ 162 เสียง
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) โดยมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ กับคณะ จำนวน 165 คน เป็นผู้เสนอญัตติ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการลงมติว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า การลงคะแนนของชาติไทยพัฒนาก็คงจะยกให้กับนายกรัฐมนตรีครบทุกคน เพียงแต่ว่าตอนนี้ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ สส.จังหวัดร้อยเอ็ด กำลังผ่าตัดเกี่ยวกับการติดเชื้อในปอด อยู่โรงพยาบาลในขณะนี้ ทำให้ไม่สามารถมาลงคะแนนได้ เนื่องจากหมอยังไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล แต่ที่เหลือของพวกเราทุกคนก็มั่นใจว่าจะไปในทิศทางเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่มีอะไรกังขาในคำอภิปรายของฝ่ายค้านและคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ไม่มี โดยเฉพาะส่วนตนชี้แจงไป เรื่องของส่วนที่ดินของนายกฯเอง ตนก็ยืนยันว่าการออกเอกสารสิทธิให้กับโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการออกหนังสือ น.ค. ซึ่งขณะนั้นเป็นหน้าที่ของกรมประชาสงเคราะห์ เช็กจากเจ้าหน้าที่แล้ว การออกใบจาก น.ค.1 เป็น น.ค.3 ก็เป็นไปอย่างถูกต้อง
และเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2528 ก็ได้มีการเปลี่ยนจากใบ น.ค.3 เป็นหนังสือ น.ส. 3 ก. ถ้าหากจะมีเหตุการณ์อะไรขึ้นหรือมีอะไรไม่ถูกต้องอย่างไร จริง ๆ นายกฯควรจะเป็นผู้เสียหายมากกว่า เพราะเช็กจากเอกสารแล้วนายกฯซื้อมาจากเจ้าของเดิม และเจ้าของเดิมได้โฉนดมาก็เป็นไปตามที่ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ฉะนั้นเรื่องของเอกสารสิทธิก็คิดว่านายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงชัดเจน
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานการประชุม สส.พรรคภูมิใจไทย ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยวันนี้จะเป็นการลงมติว่าจะไว้วางใจนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โดยนายอนุทินกล่าวกับ สส.ของพรรคว่า เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่หลังจากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะต้องมีการลงมติ โดยได้ขอบคุณ สส.ในการร่วมประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่
โดยพื้นฐานในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีมติให้ความไว้วางใจนายกฯ แต่ก็จะปฏิบัติเหมือนกับทุกครั้ง คือหาก สส.คนใดมีความกังวล หรือสงสัยหรืออยากชี้แจงอะไรก่อนการลงมติ ก็ขอให้สอบถามในที่ประชุม
จากนั้นเวลา 10.00 น. นายอนุทินเปิดเผยภายหลังการประชุมพรรคภูมิใจไทยว่า การประชุมนี้ไม่ได้เป็นการขอมติพรรค เนื่องจากเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.ในการโหวต ซึ่งทุกคนก็เห็นตรงกัน ที่จะสนับสนุนไว้วางใจนายกฯ และยืนยันว่า เสียงของพรรคภูมิใจไทยมีทั้งหมด 69 เสียง ถึงแม้ว่านายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น จะไม่ได้ร่วมกิจกรรมของพรรคภูมิใจไทย แต่ยังถือว่าเป็น สส.ของพรรคร่วมรัฐบาล
โดยหลังจากนี้จะต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งอยู่ดี ๆ จะมีการขับออกจากพรรคไม่ได้ โดยต้องมีเหตุผล เช่น ลงคะแนนขัดต่อเสียงส่วนใหญ่ แต่นายเอกราชไม่ได้มีพฤติกรรมอะไร
ส่วนท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการประชุม สส.ของพรรคก่อนลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีนายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน สส. เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมมีการพูดคุยถึงเนื้อหาการอภิปรายตลอด 2 วันที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข สส.สงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้เป็นเอกสิทธิ์ของ สส. แม้จะอยากให้เป็นมติ สส. ไปในทิศทางเดียวกันก็ตาม แต่เห็นว่าเอกสิทธิ์สำคัญกว่า โดย สส.ของพรรค 21 คน จะโหวตเห็นชอบนายกรัฐมนตรี 21 เสียง ส่วนอีก 4 เสียง จะงดออกเสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 4 เสียง ที่จะงดออกเสียง ประกอบด้วย นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา
ต่อมาในการลงมติญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี)
ปรากฏว่าที่ประชุมมีมติไว้วางใจ 319 ต่อ 162 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ทั้งนี้ เสียงไม่เห็นชอบไม่ถึงกึ่งหนึ่ง น.ส.แพทองธารได้เป็นนายกฯต่อไป และปิดการประชุมในเวลา 10.13 น. จากนั้น สส.ในห้องประชุมต่างปรบมือ