กฎหมายคอมเพล็กซ์ฉลุยรัฐบาลนี้ ชูหนุนเศรษฐกิจ-เพิ่มศักยภาพไทย

พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

นายกฯชี้ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หนุนเศรษฐกิจไทย สร้างรายได้ภาษี-ท่องเที่ยว “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ชูโมเดลสิงคโปร์ช่วยลดพนันผิดกฎหมาย มั่นใจขั้นตอนเสร็จทันรัฐบาลชุดนี้ กำหนดคนไทยต้องมีเงิน 50 ล้านบาทขึ้นไปถึงเข้ากาสิโนได้ อาจต้องคุยต่อในสภา เผยไทม์ไลน์หลัง ครม.เห็นชอบ ดันเข้าสภาต้นเดือน เม.ย.นี้ คาดไม่เกิน 8 เดือน ก่อนส่งถึงวุฒิสภา

หลังจากเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ภายหลังคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับปรุงร่างกฎหมาย ตามที่ได้รับมอบหมายจาก ครม. ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ สร้างการท่องเที่ยวแบบใหม่โดยไม่ต้องรอการท่องเที่ยวตามฤดูกาล หรือการท่องเที่ยวเดิมที่มีอยู่ หรือการท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Tourism)

เผยสาระสำคัญในร่าง พ.ร.บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่าง พ.ร.บ.ที่ผ่านสภา คณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดบางส่วน แบ่งเป็น 12 หัวข้อใหญ่ ที่น่าสนใจ เช่น กำหนดให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกัน (เดิมกำหนดให้เป็นนายกรัฐมนตรี)

กลไกการได้มาซึ่งผู้อำนวยการ โดยให้คณะกรรมการนโยบายแต่งตั้ง (จากเดิมคณะกรรมการนโยบายแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของ ครม.), กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน โดยเฉพาะสถานที่จัดให้มีการเล่นพนันซึ่งจะต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคาร แล้วแต่กรณีใดจะน้อยกว่ากัน

ควบคุมปัญหาฟอกเงิน

กำหนดให้คณะกรรมการนโยบาย กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการประกอบการกาสิโน โดยต้องมีการจัดให้มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน ระบบควบคุมกาสิโนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากกาสิโน

กำหนดให้บุคคลสัญชาติไทยซึ่งจะเล่นพนันในกาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน และเพิ่มเติมลักษณะการกระทำความผิดที่จะได้รับโทษทางอาญา เช่น การจัดให้มีการเล่นพนันในกาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ หรือถ่ายทอดการเล่นพนันในกาสิโน และกระทำการที่เป็นการเพิ่มยอดหรือเพิ่มจำนวนคนเล่นพนันหรือเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน

ADVERTISMENT

นายกฯชี้หนุนเศรษฐกิจ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านกระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็นกว่า 80,000 ราย และ 80% เห็นด้วย จากนั้นจะเสนอร่างดังกล่าวให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป โดยเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่เท่ากับกาสิโน เพราะมีกาสิโนอยู่ในธุรกิจไม่เกิน 10% ขณะที่ 90% จะเป็นเรื่องฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ความจุ 50,000 คน อินดอร์สเตเดี้ยมขนาดใหญ่ สวนน้ำ โรงแรม ร้านอาหาร ที่จะสร้างรายได้กว่า 119,000-238,000 ล้านบาท

คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 5-10% ต่อปี และจ้างงานในประเทศเพิ่มขึ้น 9,000-15,300 ตำแหน่ง เกิดอาชีพใหม่และทำให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีจากกาสิโนและธุรกิจอื่น เพื่อนำมาพัฒนาประเทศ ที่สำคัญจะมีกฎหมายควบคุมเพื่อป้องกันติดการพนัน โดยจะกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด

ADVERTISMENT

ให้มองภาพใหญ่-สร้างอาชีพ

“อยากจะบอกว่าจะมีอาชีพใหม่เกิดขึ้น เพราะมีธุรกิจหลายอย่าง เกิดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น เช่น สถานที่จัดคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ที่มีความจำเป็นอย่างมากและเท่าที่ฟังข้อมูลจากหลายกลุ่ม พบว่ามีการอยากเข้ามาจัดงานที่ประเทศไทย ที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ แต่สถานที่ของเราใหญ่สุดยังไม่พอรองรับคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ทำให้หลายครั้งพลาดโอกาสที่ดีไป ถ้าเราทำสถานบันเทิงครบวงจรจะเป็นสิ่งดี จึงอยากให้มองในภาพใหญ่ไม่ใช่เจาะเฉพาะกาสิโน เราต้องการให้คนเดินทางมาท่องเที่ยวได้ทั้งปี” น.ส.แพทองธารกล่าว

รัฐมีรายได้เพิ่ม 3.9 หมื่นล้าน/ปี

นายกฯกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องรายละเอียดของสภา ต้องให้สภาทำต่อไป เขาต้องไปคุยกันและอาจจะมีการแก้ให้เกิดความเหมาะสม ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งขั้นก่อนและไม่ได้มีปัญหาอะไร การคุยเรื่องนี้เพราะเป็นการสร้างโอกาสให้กับประเทศเรา ถ้าดูตัวเลขเศรษฐกิจที่ระบุว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเพิ่ม 5-10% รัฐจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 12,037-39,427 ล้านบาทต่อปี และจะเก็บภาษีจากธุรกิจอื่นประมาณ 8,773- 35,093 ล้านบาทต่อปี

ภาษีเฉพาะกาสิโนขั้นต่ำ 3,264 ล้านบาทต่อปี ตรงนี้เป็นโอกาสของประเทศที่แท้จริง อย่าไปโฟกัสแค่เรื่องเดียว แต่ทั้งหมดจะสร้างโอกาสให้ประเทศ

“จุลพันธ์” ชี้ลดพนันนอกระบบ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้แก้ไขเพิ่มเติม คือกำหนดให้คนไทยที่จะเข้าไปเล่นในกาสิโนถูกกฎหมาย ต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท เป็นเพียงข้อเสนอหนึ่ง จะต้องไปหารือกันต่อในสภา ซึ่งยอมรับว่าแนวคิดของกฤษฎีกากับรัฐบาลอาจจะต่างกัน แต่สุดท้ายคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็จะรับร่าง พ.ร.บ.ของกฤษฎีกา ดังนั้น ข้อกำหนดนี้จะต้องส่งเข้าสภา ซึ่งสุดท้ายอำนาจอยู่ที่สภาว่าจะปรับแก้อย่างไร

สำหรับร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นอกจากเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีจุดประสงการลดการพนันที่ผิดกฎหมาย ซึ่งสิ่งที่ชี้ชัดคือกรณีของสิงคโปร์ ขณะที่เปิดมา 10 ปีนั้น สามารถลดการพนันผิดกฎหมายจาก 3% เหลือเพียง 0.2% ดังนั้น เชื่อว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะช่วยดึงคนที่ไปลดการพนันผิดกฎหมายเหล่านี้ กลับมาหมุนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ขณะที่ใน พ.ร.บ. การกำหนดให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกัน (เดิมกำหนดให้เป็นนายกรัฐมนตรี) นั้น เนื่องจากส่วนใหญ่พื้นที่ที่จัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ต่าง ๆ นั้นก็อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว จึงให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกัน

ดันกฎหมายแล้วเสร็จใน รบ.นี้

นายจุลพันธ์กล่าวอีกว่า ขั้นตอนทางกฎหมายของร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น หลังจากผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว จะรอวิปรัฐบาลนำเสนอเรื่องไปบรรจุในวาระการประชุมของรัฐสภาสมัยปัจจุบัน ซึ่งเปิดถึง 10 เมษายน 2568 ซึ่งทางรัฐบาลยืนยันว่าจะเร่งตัวกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าให้ทันสมัยการประชุมสภานี้

จากนั้นคาดว่าจะตั้งคณะกรรมาธิการ ซึ่งจะใช้เวลาพิจารณา 5-8 เดือน และเข้าสู่ขั้นวุฒิสภา ใช้เวลาอีก 60 วัน ดังนั้นยืนยันว่ารัฐบาลจะผลักดัน พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ให้ได้

การผลักดันร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ให้เกิดขึ้นให้ได้ในสมัยรัฐบาลนี้ เป็นภารกิจที่ผมและรัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยมีเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำมาก ไม่เหมาะสมกับศักยภาพของประเทศ และคนไทย ทำให้การทำมาหากินและรายได้ของประชาชนไม่เพียงพอ ดังนั้นการสร้างจุดเด่นโดยเฉพาะด้านของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้น รัฐบาลถึงเร่งให้เสร็จจริง ไม่ใช่เอาแต่พูดอย่างเดียว ถ้าหากกฎหมายนี้เสร็จแล้วและเดินหน้าได้ แม้ว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนชุดไปแล้ว แต่รัฐบาลที่เข้ามาจะสานต่อโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แน่นอน

พิจารณาในสภาครึ่งปี

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจาก ครม.เห็นชอบแล้ว สภาผู้แทนราษฎรจะบรรจุวาระในการพิจารณา โดยคาดว่าจะบรรจุอยู่ในการพิจารณาวันที่ 2 เมษายนนี้ จากนั้นเมื่อที่ประชุมสภาเห็นชอบในวาระที่ 1 จะเข้าสู่การพิจารณาในชั้นแปรญัตติ โดยการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ น่าจะใช้เวลา 4-6 เดือน

ประเด็นหนึ่งที่คาดว่าจะมีการแก้ไขในชั้นกรรมาธิการคือ บุคคลสัญชาติไทยซึ่งจะเล่นพนันในกาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน

ภูมิใจไทยพร้อมหนุน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นร่างที่ได้ผ่านการเห็นชอบจาก ครม.แล้ว ซึ่งมีกระบวนการตามขั้นตอนที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภา รัฐบาลเองก็ปรับรายละเอียดมาแล้ว เช่น กาสิโนเหลือแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์เรื่องคนที่เข้าที่ต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 50 ล้านบาท ซึ่งในส่วนกระทรวงมหาดไทยไม่ได้มีความเห็นอะไร หากเป็นไปตามนี้ก็ไม่มีปัญหา

ส่วนก่อนหน้านี้มองว่าพรรคภูมิใจไทยขวางกฎหมายฉบับนี้ นายอนุทินกล่าวว่า เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ต้องสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล เราได้พูดถึงข้อกังวล แต่เมื่อไม่ได้เกิดขึ้น มีการปรับรายละเอียดลงเยอะ

จี้รัฐสื่อสารตรงไปตรงมา

ขณะที่นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า รัฐบาลควรสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้สังคมไม่คลางแคลงใจ เช่น ใครจะเป็นผู้ได้รับสิทธิประโยชน์ และจะทำอย่างไรให้กระบวนการออกใบอนุญาตเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มีความโปร่งใส ซึ่งประเด็นเหล่านี้คนให้ความสำคัญ และรัฐบาลจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคประชาชนว่ากระบวนการให้สิทธิประโยชน์ กระบวนการให้ใบอนุญาตเหล่านี้มีความโปร่งใสจริง ๆ

เรื่องนี้อาจต้องนำไปพูดคุยกันภายในพรรคอีกครั้ง แต่จุดยืนของพรรคประชาชนเหมือนเดิม พยายามคุยกันว่ากฎหมายที่ออกมาช่วยแก้ปัญหาหรือไม่ ปัญหาหลายอย่างที่รัฐบาลตั้งใจไว้ว่าจะช่วยแก้ได้ผ่าน พ.ร.บ.นี้ เช่น ปัญหาการพนันช่วยแก้หรือไม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจดึงดูดการท่องเที่ยวดึงดูดได้จริงหรือไม่ รวมถึงเงื่อนไขคนไทยที่จะเข้าไปเล่นในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นเท่าไหร่ มีเงื่อนไขเป็นอย่างไร

“ยังไม่รวมถึงใครจะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตต่าง ๆ ซึ่งวันนี้ภาคเอกชนหรือประชาชนก็บอกว่าล็อกสเป็กไว้แล้ว ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมและพรรคประชาชนต้องตั้งคำถามต่อไปว่ารัฐบาลควรจะทำให้โปร่งใส และทำให้ประชาชนเห็นว่าถ้าจะมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้ว ประชาชนได้ประโยชน์”