
นายกฯ แพทองธาร นั่งหัวโต๊ะถก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)-ค่ายมือถือ หาสาเหตุ SMS เตือนภัยแผ่นดินไหวช้า ชี้ SMS เป็นช่องทางเตือนเชิงรุก แต่ไม่ใช่ช่องทางเดียวในการเตือนภัย
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามและแก้ไขปัญหาการเตือนภัย SMS มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายภาสกร บุญญาลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และนายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยนายประเสริฐได้รายงานนายกรัฐมนตรี และประชุมหลังจากนายกฯได้สั่งการให้กระทรวงดิจิทัลฯ ปภ. กสทช. และโอเปอเรเตอร์ ประชุมร่วมกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อหาสาเหตุถึงความล่าช้าในการส่ง SMS แจ้งเตือนประชาชนหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา
โดยคณะทำงานได้ประชุมร่วมกัน ได้ข้อสรุป 3 ส่วนถึงดำเนินการที่ช้า คือในช่วงสรุปข้อความและขั้นตอนการส่งข้อความ ซึ่งที่ประชุมร่วมกันได้สรุปว่าในส่วนของ ปภ.ได้ให้ทำระบบปฏิบัติการใหม่ในเรื่องการเตือนภัย ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ปภ.อยู่แล้วตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย พ.ศ. 2550
ส่วนที่สองคือกำหนดระยะเวลาไทม์ไลน์ ถ้าเกิดเหตุแล้วใช้เวลากี่นาทีเพื่อที่จะให้เกิดความเร็ว และอีกส่วนคือเรื่องของโอเปอเรเตอร์ ได้เรียกค่ายโทรศัพท์มือถือมาพูดคุยศึกษาดูว่าระบบที่เป็นแมนนวลก่อนที่ระบบเซลล์บรอดแคสต์ ยังทำงานไม่ได้ จะต้องมีการใช้ระบบสำรองอย่างไรในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
น.ส.แพทองธาร ได้สอบถามว่า ข้อความจากใคร เวลาส่งแจ้งเตือนประชาชน ออกมาจากหน่วยงานใด ทำให้อธิบดี ปภ. ชี้แจงว่าหลังจากได้รับข้อมูลจากกรมอุตุฯ ศูนย์เฝ้าระวังแผ่นดินไหวของสหรัฐอเมริกา และเยอรมนี หากข้อมูล 2 ทางยืนยันตรงกัน จะเริ่มทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยวันเกิดเหตุได้รับข้อมูล จากกรมอุตุนิยมวิทยา และในเว็บไซต์ของสหรัฐอเมริกาที่ยืนยันตรงกันในเวลา 13.36 น. ทำให้นายกฯ แย้งขึ้นว่า ปภ.ส่งครั้งแรก ในเวลา 14.40 น. จำได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
อธิบดี ปภ.จึงชี้แจ้งต่อว่า การวิเคราะห์ข้อมูลของเราใช้เวลาประมาณ 10 นาที แต่ในขณะที่เหตุการณ์จริงใช้เวลา 4 นาที หลังจากฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลได้รับข้อมูลตรงกัน เพราะต้องดูแลสั่นสะเทือนและระยะ เวลาที่จะมาถึงเรา และหลังจากรับ SMS แจ้งเตือนจากกรมอุตุฯก็ได้ส่งกระจายข้อมูลทันที
จากนั้นนายกฯ กล่าวขึ้นว่า ต้องปรึกษาภาคเอกชน ว่าเมื่อเกิดแผ่นดินไหวก็ชัดเจนอยู่แล้ว ความแรงของแผ่นดินไหวเอาไว้ก่อน แต่ถามเอกชนว่าถ้าเกิดภายใน 5 นาที สามารถที่จะสื่อสาร และสรุปได้หรือไม่ เข้าใจว่าต้องรอให้ข้อมูลชัด แต่ในเมื่อแผ่นดินไหวเกิดขึ้นแล้ว สามารถส่ง SMS ได้เลยหรือไม่ เช่น ข้อความสั้นแจ้งเตือนให้ออกจากตึก ต้องสอบถามจากเอกชนว่ามีวิธีการหรือไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร ให้รวดเร็ว
ขณะที่นายจักรกฤษณ์ ตัวแทนบริษัท ทรูฯ กล่าวว่า การส่ง SMS ต้องเรียนตามตรงว่าไม่ใช่เป็นการสื่อสารหลักในการแจ้งเตือนภัย เพราะวิธีการส่งเราต้องรู้เลขหมายก่อน อย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทาง ปภ.ส่งมายัง Operator ว่า ขอให้ส่งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เราต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ข้อมูล ว่ามีหมายเลขใดบ้างที่อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงชาวต่างชาติที่เปิดโรมมิ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงจะทราบจำนวนเบอร์ที่อยู่ในพื้นที่ จึงจะสามารถส่ง SMS แจ้งเตือนได้
เพราะเราต้องรู้ก่อนว่าใครอยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งคำสั่งแรกบอกให้เราส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรีและปทุมธานี แต่ปริมาณในการส่งข้อความแจ้งเตือนก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละค่ายมือถือ ดังนั้น การจัดส่ง SMS อย่างเดียวจึงไม่เพียงพอจำเป็นจะต้องมีการโทร.แจ้งเตือนด้วย แต่หากมีเหตุจำเป็นจริง ๆ เราก็จะมีการเพิ่มปริมาณในการส่งข้อความในแต่ละครั้ง ไม่ใช่ช่องแต่ขอย้ำว่า SMS ไม่ใช่ช่องทางเดียวในการส่งข้อความแจ้งเตือน
ขณะที่นายกฯเห็นด้วยว่า SMS ไม่ใช่ช่องทางเดียว แต่เรื่องของแผ่นดินไหวเราไม่ทราบล่วงหน้า และคิดว่าการส่ง SMS เป็นการแจ้งข้อมูลเชิงรุก เช่น หากเรานั่งต่อจิ๊กซอว์อยู่ ไม่ได้กำลังเล่นมือถือ จะรู้ได้อย่างไร ดังนั้น SMS จึงเป็นหนึ่งในช่องทางการแจ้งเตือนเชิงรุก ซึ่งเมื่อช่วงเช้า ตนก็ต้องชี้แจงว่าไม่ใช่แผ่นดินไหว ทั้งการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและชี้แจงในช่องทางโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นการยืนยันว่าไม่ใช่แผ่นดินไหว