ไทม์ไลน์ Entertainment Complex นโยบายติดจรวด ?

red-dices-stack-gambling-chips-green-poker-table
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : ณัฐวุฒิ ประชาชาติ

นโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กลายเป็นนโยบาย “ติดจรวด” ของรัฐบาล

หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. เมื่อ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา

นโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถูกคาดว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 5-10% ต่อปี มีการจ้างงานในประเทศเพิ่มขึ้น 9,000-15,300 ตำแหน่ง

รัฐจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 12,037-39,427 ล้านบาทต่อปี และจะเก็บภาษีจากธุรกิจอื่น ประมาณ 8,773-35,093 ล้านบาทต่อปี โดยภาษีเฉพาะกาสิโน ขั้นต่ำ 3,264 ล้านบาทต่อปี

1 ปีก่อนหน้านี้ 28 มีนาคม 2567 Entertainment Complex สภาผู้แทนราษฎรมีมติอนุมัติรายงานของ คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยที่ประชุมเห็นชอบกับรายงาน 253 ต่อ 0 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 2 เสียง

ต่อมา วันที่ 9 เมษายน 2567 ที่ประชุม ครม. ในยุค “เศรษฐา ทวีสิน” มีมติ “รับทราบ” ผลการศึกษาการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย โดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ และร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. มีการเสนอที่ประชุม ครม. มีมติรับทราบรายงานว่า ครม.มอบกระทรวงการคลังศึกษาความเป็นไปได้ถึงรายละเอียดผลการพิจารณาของ กมธ. โดยให้นำกลับมาเสนอ ครม.ภายใน 30 วัน

ADVERTISMENT

แต่ผ่านไปนานกว่า 30 วัน ยังไม่มีความคืบหน้า นายกฯเศรษฐา จึงย้ำกับ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง ในที่ประชุม ครม.อีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567

5 สิงหาคม 2567 กระทรวงการคลัง จึงยกร่างกฎหมายขึ้นมาเสร็จเรียบร้อย พร้อมรับฟังความคิดเห็น แต่ทว่ากฎหมายดังกล่าวยังถูกเร่งนำมาเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เหตุเพราะมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ เศรษฐา ทวีสิน กระทั่งมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ เป็น “แพทองธาร ชินวัตร”

ADVERTISMENT

และยังต้อง “เคลียร์ทาง” ในทางการเมือง เพราะระหว่างเส้นทาง “พรรคภูมิใจไทย” ตั้งโต๊ะแถลงคัดค้าน ก่อนจะ “พลิก” มาสนับสนุนในเวลาต่อมา

กระทั่ง 13 มกราคม 2568 กระทรวงการคลัง ชงร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. เข้าสภา แต่ปรากฏว่า กฤษฎีกา “ทักท้วง” ว่า กฎหมายฉบับดังกล่าว เน้นแต่เรื่อง “กาสิโน” มากกว่าเรื่อง “สถานบันเทิงครบวงจร” ซึ่งมีองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย

ดังนั้น ครม.มอบหมายให้กฤษฎีกาไปปรับแก้ใช้เวลา 50 วัน โดยตั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษขึ้นมาพิจารณาในเรื่องนี้ โดยมี นายวิษณุ เครืองาม และ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา เป็นหัวหน้าทีมคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ

แล้วก็ถูกนำเข้าที่ประชุม ครม.อนุมัติเมื่อ 27 มีนาคม ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ไม่เกินวันที่ 10 เมษายนนี้